ชาวบ้านกระบี่ลงชื่อค้านให้ประทานบัตรเหมืองหิน

กระบี่ - ชาวตำบลบ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวนกว่า 150 คน รวมตัวคัดค้านการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม หวั่นกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ หลังอุตสาหกรรมจังหวัดได้จดทะเบียนคำขอจากบริษัทเอกชน ระบุผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์แล้ว ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านเหตุไม่โปร่งใส พร้อมเตรียมล่ารายชื่อเสนอให้ อบต.บ้านกลาง ยกเลิกมติเห็นชอบต่อไป

เวลา 14.30 น.วันนี้ (15 ก.พ.) กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น จำนวนกว่า 150 คน นำโดย นายบัณฑิต หมันหมาด อายุ 70 ปี นายสุทีป เสมกระสันต์ อายุ 54 ปี และนายสถิตย์ ยอดพิจิตร อายุ 59 ปี ได้ประชุมร่วมกัน ภายในสวนยางพารา ท้องที่ ม.2 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านร้องเรียนคัดค้าน การขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินปูนอุตสาหกรรมก่อสร้างของบริษัทโรงโม่ตรังภูทอง

เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ภายหลังจากที่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้จดทะเบียนคำขอประทานบัตรของบริษัทดังกล่าว และทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลางได้มีมติเห็นชอบในการในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมี นายสฤษดิ์ ชื่นชม หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานและการเหมืองแร่ มาร่วมรับฟังการประชุม พร้อมกล่าวว่า การขอประทานบัตร ยังอยู่ในขั้นตอนที่สอง คือ การรับคำขอ การรังวัด และทำแผนที่ และรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้เวลาอีกนาน ซึ่งที่ผ่านมาก็ผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้ว

ด้าน นายสถิตย์ ยอดพิจิตร กล่าว่าการรวมตัวครั้งนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านเห็นว่า บริเวณพื้นที่ที่มีการขอประทานบัตร เป็นพื้นที่ป่าชุ่มน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำคลองไหลตลอดทั้งปี ทำลายป่าต้นน้ำลำธาร และระบบนิเวศวิทยา รวมทั้งบริเวณใกล้เคียงที่มีการเป็นสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพาราจำนวนมาก กระทบต่อผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งชาวบ้านที่มาประชุมจำนวน159 คน ได้ลงลายมือชื่อคัดค้านการของประทานบัตรด้วย

นายสถิตย์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา แม้ว่าทางอุตสาหกรรม จะอ้างว่า มีการทำประชาพิจารณ์ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับรู้ และไม่ได้มีการลงชื่อ เห็นด้วยแต่อย่างใด และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ที่มาทำประพาพิจารณ์ ก็ไม่ยินยอมให้ชาวบ้านตรวจสอบรายชื่อแต่อย่างใด จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่โปร่งใส ซึ่งหลังจากนี้ จะทำเรื่องเสนอ และนำรายชื่อชาวบ้านที่คัดค้าน เสนอไปยัง อบต.บ้านกลางเพื่อจะเข้าที่ประชุมสภาเพื่อยกเลิกมติเห็นชอบให้มีการสัมปทานต่อไป