ปัตตานี - ผกก.สภ.บ้านโสร่ง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นกระท่อมในสวนยางบ้านจาเระบองอ ต.เขาตูม หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ พบระเบิดแสวงเครื่องในกระท่อม 3 ลูก ส่วนคนร้ายหนีทัน
วันนี้ (15 ก.พ.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผกก.สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้นำกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นกระท่อมในสวนยางพารา พื้นที่ ม.5 บ้านจาเระบองอ ต.เขาตูม อ.ยะรัง หลังได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ ซึ่งขณะที่กำลังเข้าปิดล้อมกลุ่มแนวร่วมได้ไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที
และจากการตรวจค้นภายในกระท่อมพบระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 3 ลูกที่ได้ทำการประกอบเรียบร้อยแล้ว บรรจุไว้ในท่อ พีวีซี น้ำหนักประมาณ 5-8 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำไปตรวจหาวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหารอยนิ้วมือแฝง
จากการตรวจยึดระเบิดได้ครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มชายนอกพื้นที่เข้ามา จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวร่วมที่เข้ามาร่วมพบปะเพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดโดยใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ประชุมวางแผน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งบอกเหตุที่ดีว่าประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาให้แก่ฝ่ายรัฐมากขึ้น และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มป้องกันเหตุในพื้นที่ทั้ง 15 โรงพัก 12 อำเภอป้องกันการก่อเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
วันนี้ (15 ก.พ.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผกก.สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้นำกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นกระท่อมในสวนยางพารา พื้นที่ ม.5 บ้านจาเระบองอ ต.เขาตูม อ.ยะรัง หลังได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ ซึ่งขณะที่กำลังเข้าปิดล้อมกลุ่มแนวร่วมได้ไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที
และจากการตรวจค้นภายในกระท่อมพบระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 3 ลูกที่ได้ทำการประกอบเรียบร้อยแล้ว บรรจุไว้ในท่อ พีวีซี น้ำหนักประมาณ 5-8 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำไปตรวจหาวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหารอยนิ้วมือแฝง
จากการตรวจยึดระเบิดได้ครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มชายนอกพื้นที่เข้ามา จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวร่วมที่เข้ามาร่วมพบปะเพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดโดยใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ประชุมวางแผน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งบอกเหตุที่ดีว่าประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาให้แก่ฝ่ายรัฐมากขึ้น และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มป้องกันเหตุในพื้นที่ทั้ง 15 โรงพัก 12 อำเภอป้องกันการก่อเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้