ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตแถลงผลการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า-ยาไอซ์จำนวนมาก เผยปัจจุบันผู้ค้ารายย่อยในจังหวัดภูเก็ตมีจำนวนมากขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฐ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรถลาง พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติด 2 เครือข่าย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า และยาไอซ์จำนวนมาก
รายแรกเป็นการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่สถานีตำรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเลขที่ ค.57/2555 ลงวันที่ 9 ก.พ.ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 78/5 ม.1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของนางพัชรี กล่อมเสนาะ ที่พักอาศัยอยู่กับสามี คือนายยุโสบ ลายแบน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง คนภายในบ้านพยายามที่จะวิ่งหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อคือนายกวี หรือบัติ มลิวัลย์ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดพังงา ซึ่งจากการตรวจค้นตัวพบยาบ้าจำนวน 152 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 2 ถึง น้ำหนักรวม 14.435 กรัม
และจากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/5 ไม่พบ นายยุโสบ พบแต่ น.ส.ฮาเลี้ย วาหะรักษ์ ภรรยาของนายกวีอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 0.820 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระบอกไฟฉายในห้องครัว จึงนำตัวทั้ง 2 คนมาสอบสวนขยายผลที่สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย
จากการสอบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายกวี ที่อ้างว่าเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมานายยุโสบ และภรรยาได้ไปหาที่บ้าน ที่ จ.พังงา และนำกระป๋องพลาสติกมาด้วย โดยบอกให้นำไปให้นายยุโสบที่บ้านพักโดยให้เดินทางไปโดยทางเรือ โดยนายกวีได้นำมาทางเรือในเวลากลางคืน เมื่อมาถึงก็พักที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากนั้นเวลา 10 ก.พ. เวลาประมาณ 04.00 น.ไปฝังดินที่บริเวณข้างบ้าน หลังจากนั้นนายยุโสบและภรรยาได้ขับรถออกจากบ้านไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการไปตรวจสอบบริเวณข้างบ้านที่นายกวีนำกระป๋องพลาสติกไปขุดหลุมฝังไว้ พบกระป๋องพลาสติกมีฝาปิดสีแดงจำนวน 1 กล่อง ภายในกระป๋องมียาไอซ์บรรจุถุงพลาสติก 12 ถุง น้ำหนักรวม 758.330 กรัม ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าจำนวน 7,800 เม็ด เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานายกวี มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกับพวกมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในส่วนของนายยุโสบและนางพัชรีนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขออกหมายจับแล้วและกำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
ส่วนอีกคดีเป็นการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดของพื้นที่ตำรวจถลาง ซึ่งเป็นการระดมกำลังปิดล้อมกวาดล้างระหว่างวันที่ 5-15 ก.พ. โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.เวลา 00.20 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านเลขที่ 42/5 ม.1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง มีกลุ่มวัยรุ่นชอบไปมั่วสุม จึงเดินทางไปตรวจค้น พบนายศาล มั่งงาม ชาว จ.ภูเก็ต และนายจรัญ โพธิ์ทอง อายุ 20 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ท่าทางมีพิรุธจึงทำการตรวจค้นพบยาบ้าที่นายไพศาล 1 เม็ด และนายจรัญครึ่งเม็ด สอบสวนทราบว่ามีไว้เสพโดยซื้อมาจากนายนันทพันธ์
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายนันทพันธ์ โดยให้นำยามาส่งให้นายไพศาลที่บ้าน เมื่อถึงเวลานัดนายนันทพันธ์ได้นำยาบ้าจำนวน 10 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 2 หลอดมาส่ง จึงนี้ที่จึงควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อจริงคือ นายนันทธพันธ์ สกุลชิต อายุ 30 ปี หลังจากนั้นได้ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 261/20 ม.1 ต.เทพกระษัตรีพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก 30 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 1.32 กรัม โดยรับว่าซื้อมาจากนายธีรศักดิ์ เจ้าหน้าที่จึงให้นายนันทพันธ์ ติดต่อนายธีรศักดิ์ โดยแจ้งให้ไปเอาของที่บ้าน
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนขยายผล ปรากฏว่า นางแพรว สัญชาติพม่า ได้โทรศัพท์มาหานายนันทพันธ์เพื่อเอายาบ้าไปจำหน่ายเนื่องจากยาที่มีอยู่เหลือแค่ 2 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงให้นายนันทพันธ์บอกให้นางแพรวมารับยาที่บ้าน เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมยึดยาบ้าได้จำนวน 2 เม็ด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พร้อมนายนันทพันธ์ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 36 ม.8 ถ.เทพกระษัตรี พบนายธีรศักดิ์ เชษฐพันธ์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นจากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 802 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 20.43 กรัม โดยอ้างว่ายาทั้งหมดเป็นของ น.ส.เอื้อ ไม่ทราบชื่อจริงนำมาให้ และบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ น.ส.เอื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนต่อไป
พล.ต.ต.ชนสิษฐ์กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมอย่างเข้มงวด ยอมรับว่าขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีผู้ค้ารายย่อยเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องระดมกำลังในการกวาดล้างกันต่อไป
