นครศรีธรรมราช - ตำรวจ สภ.ถ้ำพรรณรา เข้าปิดล้อมบ้านพ่อค้ายาเสพติด ถูกสุนัขไล่กัดกระเจิง รวบภรรยาได้พร้อมของกลาง สามีหนีรอดหวุดหวิด ขณะที่ ผบก.นครศรีธรรมราช ปูพรมชุมชนแออัด ตรวจพบเยาวชนฉี่ม่วงอื้อ
วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ร.ต.ท.ธรรมทัต นุ่นขาว รองสว.สส.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 62 ม.8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นแหล่งลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปก็ได้วางกำลังปิดล้อมบ้านดังกล่าว โดยมีกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปภายในบ้าน ปรากฏว่า ได้มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านไล่กัดเจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องวิ่งหนีกันกระเจิง ต่อมาหลังจากที่ควบคุมสุนัขได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว น.ส.ดวงดาว ไฝจันทร์ อายุ 33 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน นายศุภชัย มณีอ่อน อายุ 37 ปี หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิดในขณะกำลังชุลมุน พร้อมยาไอซ์จำนวนหนึ่ง
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบกลางยาบ้า 34 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง หรือ 1 จี เงินสด 7,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้านับ 10 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม ซึ่งในสมุดบัญชีมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท จึงทำการตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งเชื่อว่าได้มาจากจำหน่ายยาเสพติด มีรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน ก่อนจะควบคุมตัว น.ส.ดวงดาว พร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.ถ้ำพรรณรา
และช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.และ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.บก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จำนวน 50 นาย เข้าทำการปิดล้อมชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต.คลัง อ.เมือง ซึ่งแบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่มีบัญชีรายชื่อในสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัด คือ ซอย 2, 3, 4, 5, 6 ชุมชนสถานีรถไฟ
นอกจากนั้น ยังมีการตั้งโต๊ะทำการตรวจปัสสาวะกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าออกชุมชนสถานีรถไฟทุกคน ปรากฏว่า พบวัยรุ่นมีฉี่สีม่วงจำนวนนับ 10 คน โดยวัยรุ่นที่ตรวจพบฉี่ม่วงจะนำตัวไปบันทึกประวัติเพื่อส่งตัวไปทำการบำบัดยาเสพติดต่อไป
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ระบุว่า ปัญหายาเสพติดนั้นจะต้องทำให้เป็นวาระของจังหวัด เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งสถานศึกษา มาร่วมมือกันขจัดปัญหานี้อย่างรีบเร่ง เพราะขณะนี้ยาเสพติดระบาดไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แต่ระบาดถึงระดับผู้นำท้องถิ่น จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับปัญหานี้ให้มากที่สุด เพราะมันกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
และที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ก็คือ กลุ่มผู้ค้าส่วนใหญ่ที่โดนจับตอนนี้ จะมีอาวุธสงครามสร้างบารมีให้กับตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีความปลอดภัย รวมทั้งผู้ค้าจะสั่งยาเสพติดผ่านทางผู้ต้องขังในเรือนจำกลางจังหวัด ซึ่งอันนี้ต้องเร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ร.ต.ท.ธรรมทัต นุ่นขาว รองสว.สส.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 62 ม.8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นแหล่งลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปก็ได้วางกำลังปิดล้อมบ้านดังกล่าว โดยมีกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปภายในบ้าน ปรากฏว่า ได้มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านไล่กัดเจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องวิ่งหนีกันกระเจิง ต่อมาหลังจากที่ควบคุมสุนัขได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว น.ส.ดวงดาว ไฝจันทร์ อายุ 33 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน นายศุภชัย มณีอ่อน อายุ 37 ปี หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิดในขณะกำลังชุลมุน พร้อมยาไอซ์จำนวนหนึ่ง
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบกลางยาบ้า 34 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง หรือ 1 จี เงินสด 7,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้านับ 10 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม ซึ่งในสมุดบัญชีมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท จึงทำการตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งเชื่อว่าได้มาจากจำหน่ายยาเสพติด มีรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน ก่อนจะควบคุมตัว น.ส.ดวงดาว พร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.ถ้ำพรรณรา
และช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.และ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.บก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จำนวน 50 นาย เข้าทำการปิดล้อมชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต.คลัง อ.เมือง ซึ่งแบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่มีบัญชีรายชื่อในสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัด คือ ซอย 2, 3, 4, 5, 6 ชุมชนสถานีรถไฟ
นอกจากนั้น ยังมีการตั้งโต๊ะทำการตรวจปัสสาวะกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าออกชุมชนสถานีรถไฟทุกคน ปรากฏว่า พบวัยรุ่นมีฉี่สีม่วงจำนวนนับ 10 คน โดยวัยรุ่นที่ตรวจพบฉี่ม่วงจะนำตัวไปบันทึกประวัติเพื่อส่งตัวไปทำการบำบัดยาเสพติดต่อไป
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ระบุว่า ปัญหายาเสพติดนั้นจะต้องทำให้เป็นวาระของจังหวัด เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งสถานศึกษา มาร่วมมือกันขจัดปัญหานี้อย่างรีบเร่ง เพราะขณะนี้ยาเสพติดระบาดไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แต่ระบาดถึงระดับผู้นำท้องถิ่น จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับปัญหานี้ให้มากที่สุด เพราะมันกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
และที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ก็คือ กลุ่มผู้ค้าส่วนใหญ่ที่โดนจับตอนนี้ จะมีอาวุธสงครามสร้างบารมีให้กับตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีความปลอดภัย รวมทั้งผู้ค้าจะสั่งยาเสพติดผ่านทางผู้ต้องขังในเรือนจำกลางจังหวัด ซึ่งอันนี้ต้องเร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และตนจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป