นครศรีธรรมราช - ตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ ทำการตัดฟันกัญชาหลายร้อยต้นในสวนปาล์ม ต.กรุงหยัน หลังหลงทางเข้าไปในขณะออกตรวจพื้นที่ คนเฝ้าสวนอ้างปลูกไว้เสพ และใส่อาหาร เผย เจ้าของสวนเป็นปลัดในเมืองคอน
วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครอง เข้าทำการตัดฟันและตรวจยึดกัญชาหลายร้อยต้นที่ปลูกอยู่ในท้ายสวนปาล์มเนื้อที่กว่า 30 ไร่ บ้านทะเลปรน ม.2 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) ด.ต.อภินันท์ บัญฑิตกุล ผบ.หมู่ ป.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลัง ออกตรวจพื้นที่แล้วขับรถหลงเข้าไปในสวนปาล์มดังกล่าวจนพบไร่กัญชาจำนวนมาก
ด.ต.อภินันท์ บัญฑิตกุล ผบ.หมู่ ป.สภ.ทุ่งใหญ่ ระบุว่า เมื่อช่วงพลบค่ำวานนี้ (1 ก.พ.) ตนพร้อมด้วยเพื่อนตำรวจใช้รถยนต์สายตรวจขับออกตรวจตราพื้นที่ไปเรื่อยๆ จนถึงบ้านทะเลปรน หมู่ 2 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ระหว่างทางขับรถยนต์เกิดหลงทางเข้าไปในสวนปาล์มเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เนื่องจากมืดมาก เมื่อพบกระท่อมที่พักคนงานจึงลงไปสอบถามเส้นทาง พบเพียงเด็ก อายุ 15 ปี นอนหลับอยู่
จากการสอบถามทราบว่า อยู่คนเดียว พ่อไปทำธุระข้างนอกเดี๋ยวกลับมา แต่บังเอิญหันไปพบ บ้องกัญชาวางอยู่ที่หน้ากระท่อม ด้วยความสงสัยว่าน่าจะมีการปลูกกัญชา เพราะเป็นที่เปลี่ยวถนนลำบากไม่ค่อยมีใครเข้ามา เพราะเป็นทางตัน จึงออกเดินตรวจสอบดูในบริเวณสวนปาล์มแปลงดังกล่าว และจริงดังสันนิษฐาน เพราะพบมีต้นกัญชาปลูกไว้ระหว่างร่องปาล์มทั่วทั้งสวน มีทั้งต้นเล็ก และต้นใหญ่ สูง 3-4 เมตร ปเต็มเนื้อที่นับร้อยต้นหากมีการแปรรูปเป็นกัญชาแห้งจะขายได้เงินมหาศาล
หลังจากนั้น จึงวิทยุแจ้ง พ.ต.ต.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป.ทราบ และนำกำลังเข้าซุ่มรอเจ้าของไร่กัญชา ถึงเวลา 19.00 น.มี นายวรรณะ จันสังสา อายุ 45 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.กรุงหยัน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา เมื่อถึงกระท่อมเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และนำไปตรวจยึดต้นกัญชาโดยการถอนได้เพียงจำหนวนหนึ่งเท่านั้น เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนและเข้ามาถอนยึดอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากกลางคืนนั้นเกรงว่าอาจไม่ปลอดภัยกับชุดจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ต้องหา อ้างว่า สวนปาล์มดังกล่าวเป็นของปลัดคนหนึ่ง ตนเองมีหน้าที่เป็นเพียงคนรับจ้างดูแล และเห็นว่า ดินอุดมสมบูรณ์ดี จึงปลูกกัญชาเอาไว้เสพและใส่อาหารและแบ่งไห้พรรคพวกเสพโดยเจ้าของที่ดินไม่รู้เรื่องด้วย เพราะจะปลูกไว้ท้ายสวน เนื่องจากเจ้าของไม่ค่อยเข้าไปดู แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีร่องรอยการตัดไปแล้วจำนวนมาก คาดว่าจำหน่ายไปก่อนแล้ว และได้ดำเนินคดีกับ นายวรรณะ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ต่อไปแล้ว
วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครอง เข้าทำการตัดฟันและตรวจยึดกัญชาหลายร้อยต้นที่ปลูกอยู่ในท้ายสวนปาล์มเนื้อที่กว่า 30 ไร่ บ้านทะเลปรน ม.2 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) ด.ต.อภินันท์ บัญฑิตกุล ผบ.หมู่ ป.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลัง ออกตรวจพื้นที่แล้วขับรถหลงเข้าไปในสวนปาล์มดังกล่าวจนพบไร่กัญชาจำนวนมาก
ด.ต.อภินันท์ บัญฑิตกุล ผบ.หมู่ ป.สภ.ทุ่งใหญ่ ระบุว่า เมื่อช่วงพลบค่ำวานนี้ (1 ก.พ.) ตนพร้อมด้วยเพื่อนตำรวจใช้รถยนต์สายตรวจขับออกตรวจตราพื้นที่ไปเรื่อยๆ จนถึงบ้านทะเลปรน หมู่ 2 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ระหว่างทางขับรถยนต์เกิดหลงทางเข้าไปในสวนปาล์มเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ เนื่องจากมืดมาก เมื่อพบกระท่อมที่พักคนงานจึงลงไปสอบถามเส้นทาง พบเพียงเด็ก อายุ 15 ปี นอนหลับอยู่
จากการสอบถามทราบว่า อยู่คนเดียว พ่อไปทำธุระข้างนอกเดี๋ยวกลับมา แต่บังเอิญหันไปพบ บ้องกัญชาวางอยู่ที่หน้ากระท่อม ด้วยความสงสัยว่าน่าจะมีการปลูกกัญชา เพราะเป็นที่เปลี่ยวถนนลำบากไม่ค่อยมีใครเข้ามา เพราะเป็นทางตัน จึงออกเดินตรวจสอบดูในบริเวณสวนปาล์มแปลงดังกล่าว และจริงดังสันนิษฐาน เพราะพบมีต้นกัญชาปลูกไว้ระหว่างร่องปาล์มทั่วทั้งสวน มีทั้งต้นเล็ก และต้นใหญ่ สูง 3-4 เมตร ปเต็มเนื้อที่นับร้อยต้นหากมีการแปรรูปเป็นกัญชาแห้งจะขายได้เงินมหาศาล
หลังจากนั้น จึงวิทยุแจ้ง พ.ต.ต.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป.ทราบ และนำกำลังเข้าซุ่มรอเจ้าของไร่กัญชา ถึงเวลา 19.00 น.มี นายวรรณะ จันสังสา อายุ 45 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.กรุงหยัน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา เมื่อถึงกระท่อมเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และนำไปตรวจยึดต้นกัญชาโดยการถอนได้เพียงจำหนวนหนึ่งเท่านั้น เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนและเข้ามาถอนยึดอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากกลางคืนนั้นเกรงว่าอาจไม่ปลอดภัยกับชุดจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ต้องหา อ้างว่า สวนปาล์มดังกล่าวเป็นของปลัดคนหนึ่ง ตนเองมีหน้าที่เป็นเพียงคนรับจ้างดูแล และเห็นว่า ดินอุดมสมบูรณ์ดี จึงปลูกกัญชาเอาไว้เสพและใส่อาหารและแบ่งไห้พรรคพวกเสพโดยเจ้าของที่ดินไม่รู้เรื่องด้วย เพราะจะปลูกไว้ท้ายสวน เนื่องจากเจ้าของไม่ค่อยเข้าไปดู แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีร่องรอยการตัดไปแล้วจำนวนมาก คาดว่าจำหน่ายไปก่อนแล้ว และได้ดำเนินคดีกับ นายวรรณะ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ต่อไปแล้ว