นครศรีธรรมราช - ประมงไทยไล่ล่าตังเกเวียดนามเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย จับกุมเรือประมง 5 ลำ พร้อมลูกเรือ 40 คน เบ็ดตกปลาหมึก 400 คัน ปลาหมึกที่ตกได้แล้วกว่า 1 ตัน
วันนี้ (23 ม.ค.) นายแสน ศิริงาม ผู้อำนวยการการส่งเสริมบริหารจัดการประมงทะเล กรุงเทพฯ พร้อมด้วย นายปรีชา ปริเพชร หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน พร้อมเจ้าหน้าที่ประมง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเรือเร็ว 3 ลำ และเรือตรวจการ 1 ลำออกไล่ล่าเรือประมงของประเทศเวียดนามที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำของไทย หลังจากได้รับรายงานว่าเข้ามาทำการประมงตกปลาหมึกรวมกว่า 10 ลำ
โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงเรือจาก อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ออกลาดตระเวนจากในทะเลในเขตพื้นที่ ของ อ.สิชล และเขต อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะได้รับรายงานว่า เรือประมงจากเวียดนามเข้าไปลักลอบทำการประมงในเขตเกาะพะงัน และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำเรือออกตามล่าจนกระทั่งเข้าเขตเกาะพงัน พบเรือประมงของเวียดนามกว่า 10 ลำ กำลังทำการประมงตกหมึกอยู่กลางทะเล เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับเรือหลบหนีไปคนละทิศละทาง และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เขตเกาะพะงัน 4 ลำ และเกาะสมุย 1 ลำ
หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัวเรือประมงเวียดนาม รวม 5 ลำ แล้ว จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบผู้ต้องหาชาวเวียดนามรวม 40 คน เบ็ดสำหรับตกปลาหมึกประมาณ 400 คัน และปลาหมึกที่ตกได้รวมประมาณ 1 ตัน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดทั้งเรือประมง 5 ลำ คันเบ็ด และปลาหมึกไว้เป็นของกลาง โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักลอบใช้เบ็ดจับปลาหมึกในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นจึงได้นำผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพงัน และ สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายแสน ศิริงาม ผู้อำนวยการการส่งเสริมบริหารจัดการประมงทะเล กรุงเทพฯ ได้กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ทาง ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง ได้รับการประสานงานและรับแจ้งว่ามีเรือประมงจากประเทศเวียดนามกว่า 10 ลำ ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำของไทย ซึ่งเป็นการล้ำเขตแดนที่ผิดกฎหมาย จึงสั่งการให้ตนเองประสานงานกับผู้รับผิดชอบในพื้นที่ออกทำการจับกุม และสามารถจับกุมได้บริเวณทิศตะวันออกของเกาะพะงัน และเกาะสมุย ของ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ลูกเรือและของกลางจำนวนมากดังกล่าว
