กำลังซื้อหดทำธุรกิจร้านทองตรังไม่คึกคักรับตรุษจีน

ตรัง - ร้านค้าทองช่วงตรุษจีนปีนี้ซบเซาไม่คึกคักเหมือนปีใหม่ เหตุมาจากราคาแพงบวกกับวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อลดลง และส่งผลให้ยอดขายหดกว่า 20 %

นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ เจ้าของห้างทองตุ้นเฮงหลี ผู้ประกอบการร้านรายใหญ่ใน จ.ตรัง และรองประธานชมรมผู้ค้าทองคำ จ.ตรัง กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายทองเพื่อเป็นของขวัญให้กับคนในครอบครัว หรือผู้หลักผู้ใหญ่ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ไม่ค่อยคึกคักเหมือนช่วงต้นเดือนธันวาคม 2554 และช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งทองมีราคาลดลงมาอยู่ที่บาทละ 23,500-23,800 บาท จึงทำให้ผู้คนแห่กันมาซื้อทองไปเก็บไว้จำนวนมากกว่าช่วงปกติประมาณ 10-15 %

แต่พอมาถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้กำลังซื้อกลับลดลง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่ทองมีราคาแพงถึงบาทละ 25,050 บาท ประกอบกับการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะซื้อทองมาเก็บไว้เพราะกลัวขาดทุน จึงส่งผลกระทบให้ยอดขายหายไปกว่า 20 % ทำให้บรรยากาศในช่วงนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงาและซบเซาลงอย่างมาก ไม่เหมือนกับช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกๆ ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ทองจะมีราคาแพงและทำให้ผู้คนมาซื้อน้อยลงก็ตาม แต่ก็ยังคงมีการซื้อทองให้เห็นกันบ้างแบบประปราย โดยมีตั้งแต่ซื้อเพื่อนำไปเป็นของขวัญให้กับคู่บ่าวสาว รวมไปถึงผู้ที่ได้รับเงินโบนัสหรือเงินพิเศษ ก็จะนิยมซื้อทองน้ำหนักตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป และไม่เลือกว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน หรือกำไล เพื่อนำไปเป็นเครื่องประดับหรือนำไปเก็บไว้

ส่วนการที่ยางพาราซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดตรังปีละหลายล้านบาท มีราคาตกต่ำลงมาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายทองในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มของราคาทองนั้นคาดว่า น่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกถึงบาทละ 28,000 บาท ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ผ่านมาเคยทำสถิติสูงสุด 27,000 บาทมาแล้ว