นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก เตรียมขยายผลการติดตามตัวคนร้ายที่ยิง ส.อบจ.จากกล้องวงจรปิด ขณะที่นายก อบจ.นราธิวาสยอมรับมีการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่มีความรุนแรงสูง
วันนี้ (19 ม.ค.) ความคืบหน้า กรณีคนร้ายก่อเหตุลอบยิงนายศิรพงศ์ ทองจีน หรือ "สจ.ถม" อายุ 52 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นราธิวาส เขต 1 อ.สุไหงโก-ลก เสียชีวิตบนถนนเอเชีย 18 สายเลี่ยงเมือง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 18 ม.ค.55 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุไปตรวจสอบเพื่อขยายผลการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ด้านนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส กล่าวแสดงความเสียงใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายศิรพงศ์ อย่างเต็มที่ และจากกรณีดังกล่าว อบจ.นราธิวาสจะไม่มีการเลือกตั้งซ่อมเนื่องจากนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสจะครบวาระในวันที่ 19 เม.ย.55 นี้ ซึ่งไม่ถึง 180 วันตามระเบียบของการจัดการเลือกตั้ง
ส่วนในทางคดีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสยอมรับว่า มุ่งไปที่ประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก เนื่องจากการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีความรุนแรงมาก ซึ่งจากนี้ไปตนเอง รวมถึงสมาชิกองค์การบริการส่วนจังหวัดคนอื่นๆ ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเช่นเดียวกัน
วันนี้ (19 ม.ค.) ความคืบหน้า กรณีคนร้ายก่อเหตุลอบยิงนายศิรพงศ์ ทองจีน หรือ "สจ.ถม" อายุ 52 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นราธิวาส เขต 1 อ.สุไหงโก-ลก เสียชีวิตบนถนนเอเชีย 18 สายเลี่ยงเมือง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 18 ม.ค.55 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุไปตรวจสอบเพื่อขยายผลการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ด้านนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส กล่าวแสดงความเสียงใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายศิรพงศ์ อย่างเต็มที่ และจากกรณีดังกล่าว อบจ.นราธิวาสจะไม่มีการเลือกตั้งซ่อมเนื่องจากนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสจะครบวาระในวันที่ 19 เม.ย.55 นี้ ซึ่งไม่ถึง 180 วันตามระเบียบของการจัดการเลือกตั้ง
ส่วนในทางคดีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสยอมรับว่า มุ่งไปที่ประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก เนื่องจากการแข่งขันทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีความรุนแรงมาก ซึ่งจากนี้ไปตนเอง รวมถึงสมาชิกองค์การบริการส่วนจังหวัดคนอื่นๆ ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเช่นเดียวกัน