สุราษฎร์ธานี - ททท.สุราษฏร์ธานีตั้งเป้าสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเกาะสมุย ร้อยละ 80 เน้นเจาะตลาดจีน มาเลเซีย และอินเดียเป็นหลัก มีกำลังซื้อสูงเป็นตลาดใหม่ไฟแรง นอกจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักจากทวีปยุโรป เอเชีย สแกนดิเนเวีย
วันนี้ (18 ม.ค.55) นายภานุ วรมิตร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการจัดอันดับสถานที่น่าท่องเที่ยวของโลกปี 2011 ของเว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ สหรัฐอเมริกา พบว่าเกาะสมุยแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีติดอันดับที่ 3 จากสถานที่น่าท่องเที่ยว 41 แห่งทั่วโลก ถือเป็นเรื่องดีที่ช่วยประชาสัมพันธ์เกาะสมุยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้าไทยจำนวนน้อยมาก
นอกจากนี้ จากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป และค่าเงินยูโรที่อ่อนตัว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางมาเกาะสมุยในไตรมาส 4 คือ ช่วงระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.ของปี 2554 ลดลงประมาณร้อยละ 15-20 เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางลดลงประมาณร้อยละ 20
อย่างไรก็ตาม ปี 2555 ททท.สนง.สุราษฏร์ธานี ได้ตั้งเป้าสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเกาะสมุยร้อยละ 80 เน้นเจาะตลาดจีน มาเลเซีย และอินเดีย เป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวตลาดหลักจากทวีปยุโรป เอเชีย สแกนดิเนเวีย เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ ที่มีอยู่เดิม ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยตั้งเป้าอยู่ที่ร้อยละ 20 ทั้งนี้ จากข้อมูลการท่องเที่ยวหลายปีที่ผ่านมาเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณเกือบ 2 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ให้กับประเทศในเป็นจำนวนเงินนับหมื่นล้านบาท
นายภานุ กล่าวอีกว่า ททท.จะประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย และสมาคมท่องเที่ยวเกาะพะงัน โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาดูแลและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมโดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบ 7 Greens หรือท่องเที่ยวสีเขียว 7 แบบขึ้น รวมถึงการให้บริการและการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ปี 2555 จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรป และต้องกระตุ้นให้เกิดการจัดประชุมสัมมนาในกลุ่มคนไทยให้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งคาดว่าน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างรู้จักเอกลักษณ์เฉพาะเกาะแก่งทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เป็นอย่างดีแล้ว เช่น เกาะสมุย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นครอบครัว หรือสูงอายุ ชอบการพักผ่อน ตีกอฟล์ ออกกำลังกาย นวดสปาเพื่อสุขภาพ เป็นต้นส่วนเกาะพะงันนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นพวกกลุ่มวัยรุ่น ชอบงานปาร์ตี้
ขณะที่เกาะเต่านั้นเป็นกลุ่มผสมผสานระหว่างเกาะสมุยกับเกาะพะงัน ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบการดำน้ำชมความสวยงามใต้ท้องทะเล ซึ่งเกาะเต่า เป็นแหล่งดำน้ำติดอันดับท็อปเท็นของโลกอีกด้วย
วันนี้ (18 ม.ค.55) นายภานุ วรมิตร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการจัดอันดับสถานที่น่าท่องเที่ยวของโลกปี 2011 ของเว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ สหรัฐอเมริกา พบว่าเกาะสมุยแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีติดอันดับที่ 3 จากสถานที่น่าท่องเที่ยว 41 แห่งทั่วโลก ถือเป็นเรื่องดีที่ช่วยประชาสัมพันธ์เกาะสมุยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้าไทยจำนวนน้อยมาก
นอกจากนี้ จากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป และค่าเงินยูโรที่อ่อนตัว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางมาเกาะสมุยในไตรมาส 4 คือ ช่วงระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.ของปี 2554 ลดลงประมาณร้อยละ 15-20 เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางลดลงประมาณร้อยละ 20
อย่างไรก็ตาม ปี 2555 ททท.สนง.สุราษฏร์ธานี ได้ตั้งเป้าสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเกาะสมุยร้อยละ 80 เน้นเจาะตลาดจีน มาเลเซีย และอินเดีย เป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวตลาดหลักจากทวีปยุโรป เอเชีย สแกนดิเนเวีย เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ ที่มีอยู่เดิม ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยตั้งเป้าอยู่ที่ร้อยละ 20 ทั้งนี้ จากข้อมูลการท่องเที่ยวหลายปีที่ผ่านมาเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณเกือบ 2 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ให้กับประเทศในเป็นจำนวนเงินนับหมื่นล้านบาท
นายภานุ กล่าวอีกว่า ททท.จะประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย และสมาคมท่องเที่ยวเกาะพะงัน โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาดูแลและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมโดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบ 7 Greens หรือท่องเที่ยวสีเขียว 7 แบบขึ้น รวมถึงการให้บริการและการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ปี 2555 จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรป และต้องกระตุ้นให้เกิดการจัดประชุมสัมมนาในกลุ่มคนไทยให้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งคาดว่าน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างรู้จักเอกลักษณ์เฉพาะเกาะแก่งทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เป็นอย่างดีแล้ว เช่น เกาะสมุย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นครอบครัว หรือสูงอายุ ชอบการพักผ่อน ตีกอฟล์ ออกกำลังกาย นวดสปาเพื่อสุขภาพ เป็นต้นส่วนเกาะพะงันนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นพวกกลุ่มวัยรุ่น ชอบงานปาร์ตี้
ขณะที่เกาะเต่านั้นเป็นกลุ่มผสมผสานระหว่างเกาะสมุยกับเกาะพะงัน ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบการดำน้ำชมความสวยงามใต้ท้องทะเล ซึ่งเกาะเต่า เป็นแหล่งดำน้ำติดอันดับท็อปเท็นของโลกอีกด้วย