ยะลา - เจ้าหน้าที่เร่งแกะรอยติดตามเสือโคร่งพร้อมสร้างกับดักเพิ่มหวั่นเสือข้ามแดน หลัง นสพ.มาเลย์รายงานว่าชาวบ้านในรัฐเปรัคซึ่งเป็นเขตแดนติดกับ อ.เบตง ยิงเสือโคร่งตาย 2 ตัว ขณะเดียวกันชาวบ้านยังหวั่นวิตกไม่กล้าออกมากรีดยางพารา
วันนี้ (16 ม.ค.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.เชษฐ์วิทย์ นีระฮิง ผบ.ร้อย ตชด.445 พร้อมกำลัง ตชด.445 ตำรวจภูธร อส.และ ชรบ.กว่า 50 นาย ออกติดตามแกะรอยเสือโคร่ง หลังพบรอยเสือเพิ่มขึ้นอีกหลายจุดในพื้นที่บ้านมาลาเหนือ หมู่ที่ 9 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำกับดักเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากชาวบ้านร้องขอเพราะเกรงว่าจะถูกเสือทำร้าย ไม่ได้ประกอบอาชีพกรีดยางพารามาหลายวันแล้ว
ขณะที่หนังสือพิมพ์จีนของประเทศมาเลเซียได้เสนอข่าวว่า ชาวบ้านในเขตประเทศมาเลเซียยิงเสือโคร่งตายจำนวน 2 ตัว ที่บ้านกัวรันกังซา รัฐเปรัค ซึ่งเป็นพรมแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดติดตามเสือคาดว่าอาจเป็นเสือที่พบรอยบริเวณหลักเขตแดนที่ 54 บ้านซาโห่ หมู่ที่ 4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งมีแนวเขตป่าที่สมบูรณ์ติดต่อกับบ้านกัวรันกังซา รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่มีสวนยางพาราติดเขตชายแดนหวั่นวิตกว่า หลังจากที่เสือถูกยิงตายอาจทำให้เสือที่ยังคงเหลืออยู่เตลิดเข้ามาในเขตไทย และอาจทำร้ายคนและสัตว์ในพื้นที่ได้
ด้าน นายอุรุพงษ์ ชนะกุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดติดตามเสือ กล่าวว่า วันนี้ เป็นวันที่ 7 ในการติดตาม เนื่องจากการติดตามประสบปัญหาฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้แกะรอยเสือได้ยาก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไม้มาทำกับดักเสือเพิ่มขึ้นทุกจุดตามที่ชาวบ้านแจ้งมา พร้อมจัดแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเป็นจริงตามที่หนังสือพิมพ์มาเลเซียเสนอข่าวก็อาจทำให้เสือที่อยู่ในฝั่งมาเลเซียหลบหนีการติดตามของชาวบ้านที่ติดตามไล่ล่าเข้ามาในเขตไทย จึงต้องเร่งติดตามและนำกับดักโดยใช้แพะเป็นเหยื่อล่อ หากเสือเข้ามากินแพะก็จะทำให้ทราบว่ายังคงมีเสืออยู่ในบริเวณที่นำเหยื่อมาล่อ และจะได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้เข้ามากรีดยางพารา รวมทั้งจะได้ระดมเจ้าหน้าที่ปิดล้อมในบริเวณดังกล่าวเพื่อล้อมจับด้วย