xs
xsm
sm
md
lg

ตามจับคนร้ายฆ่าโหด “เอ๋ อินไซด์”ตร.ไม่หนักใจ ชี้มูลเหตุสังหารน้ำหนักใกล้เคียงแต่คลายปมได้แน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พล.ต.ต.พิสัณห์  จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  8
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้บัญชาการภาค 8 เผยทุกหน่วยเร่งคลี่คลายคดีฆ่า “เอ๋ อินไซด์” เผยผลสรุปมูลเหตุมีหลายประเด็นชี้น้ำหนักใกล้เคียงกัน ทั้งเรื่องการออกเอกสารสิทธิ

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานติดตามหาคนร้ายและคลี่คลายคดีฆ่านายวิสุทธิ์ ตั้งวิทยาภรณ์ อายุ 44 ปี เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อินไซด์ภูเก็ต และแกนนำ นปช.ภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณปากซอยทางเข้าหมู่บ้านศรีสุชาติ ถ.เทพกระษัตรี ฝั่งขาออกนอกเมืองภูเก็ต ตรงข้ามโชว์รูมนิสสันภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า

จากการประชุมร่วมกับคณะทำงานติดตามกลุ่มมือปืน และหาสาเหตุการฆ่านายวิสุทธิ์ ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด พบว่ามูลเหตุการณ์สังหารนายวิสุทธิ์ในครั้งนี้ มีแต่ละประเด็นมีรายละเอียดและน้ำหนักของมูลเหตุใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินบริเวณหาดฟรีด้อม ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต, การออกโฉนดที่ดินแปลงนาคาเล ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมทั้งประเด็นทางการเมืองที่ผู้ตายเป็นเลขานุการ นปช.ภูเก็ต เรื่องลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการเขียนโจมตีและโยกย้ายข้าราชการหน่วยต่างๆ เนื่องจากผู้ตายได้เขียนระบุไว้ในบทความในหนังสือพิมพ์ “อินไซด์ภูเก็ต”ฉบับปักษ์หลังเดือนธันวาคม ระบุว่ามีผู้ข่มขู่จะทำร้ายตัวเองด้วย ส่วนประเด็นเรื่องของชู้สาวนั้นขณะนี้ทางตำรวจได้ตัดออกไปแล้วเนื่องจากไม่มีน้ำหนัก

พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับประเด็นที่ทางตำรวจตั้งไว้นั้นทุกประเด็นล้วนมีน้ำหนักที่ไม่แตกต่างกันในเรื่องของผลประโยชน์ ซึ่งขณะนี้คณะทำงานมุ่งเน้นการติดตาม เกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มมือปืนว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกลุ่มไหนบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการสั่งฆ่านายวิสุทธิ์

“ส่วนภาพจากกล้องปิดที่ได้มาจากที่พื้นที่เกิดเหตุนั้น ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วภาพไม่ชัดเจน จึงทำอะไรไม่ได้มากนัก ประกอบกับคนร้ายที่ก่อเหตุสวมหมวกกันน๊อค แต่อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวจะนำไปใช้ประโยชน์หลังจากมีการจับกุมคนร้ายแล้ว เช่นเดียวกับป้ายทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีหมายเลขทะเบียนดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นมือปืนมืออาชีพ และมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ดังนั้นจะต้องตั้งสมมติฐานให้ดี เพราะหากตั้งสมมุติฐานผิดตั้งแต่ต้นก็จะทำให้การติดตามคดีผิดพลาดไปด้วย”พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวและ ว่า

คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจมาก เนื่องจากเป็นคดีที่ถือว่าคุกคามสื่อขั้นสูงสุด ซึ่งในการติดตามคดีเพื่อนำคนร้ายมารับโทษนั้นก็จะทำงานร่วมกันระหว่างชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ซึ่งก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินอย่างเต็มที่ตามพยานหลักฐานต่างๆ และขณะนี้ก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปรามหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าค่อนข้างรวดเร็ว ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างอื่นร่วมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น