ภูเก็ตเข้มจัดค่ายพลังแผ่นดินเอาชนะเสพติด กดดันผู้เสพเข้าบำบัด

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตหารือจัดค่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด หวังกดดันผู้เสพเข้าสู่ระบบบำบัด เผย ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเหตุกลัวเสียชื่อเสียง พร้อมระบุปี 2555 ภูเก็ตได้รับเป้าหมายเฝ้าติดตามผู้ค้า ผู้เสพ ผู้เข้ารับการบำบัด 3,400 คน

วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.ภูเก็ต (ศพส.จ.ภูเก็ต) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.พรชัย นวลหนู รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ภูเก็ต คุมประพฤติ จ.ภูเก็ต เป็นต้น เพื่อหารือการจัดทำโครงการค่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต และกิจกรรรมที่จะดำเนินการในช่วงเดือนมกราคมนี้

นายตรี กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมา ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันกัน ปราบปรามและบำบัดรักษามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ส่วนแนวทางในการดำเนินการปีนี้ เริ่มต้นในช่วงเดือนมกราคมนี้จะดำเนินการ 2 อย่าง คือ การจัดทำค่ายบำบัดผู้ติดยา ภายใต้ชื่อโครงการค่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการหารือกันในเบื้องต้นกำหนดที่จะดำเนินการประมาณช่วงระยะวันที่ 11-19 มกราคมนี้ โดยนำผู้ที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดเข้าร่วมโครงการอำเภอละอย่างน้อย 25 คน แต่รวมแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 84 คน

ส่วนกิจกรรมที่ 2 คือ การรวมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยจะมีการรวมพลังมวลชนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เครือข่ายภาคประชาชนและภาคเอกชน เข้าร่วมให้ได้ประมาณ 12,000 คน และ จะเชิญนายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงมาเป็นประธาน แต่ทั้งนี้จะต้องมาสรุปรูปแบบการดำเนินการกันอีกครั้งในวันที่ 6 มกราคมนี้

นายตรี กล่าวด้วยว่า การดำเนินงานการแก้ปัญหายาเสพติดของจังหวัดภูเก็ตในปีงบประมาณ 2554 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่วนปีงบประมาณ 2555 ได้กำหนดเป้าหมายเฝ้าติดตามทั้งในส่วนของผู้ค้า ผู้เสพ และผู้เข้ารับการบำบัดรักษา รวมประมาณ 3,400 คน ภายใต้การดำเนินงานในรูปของคณะกรรมการซึ่งมีทุกภาคส่วนเข้าร่วม แม้ว่าการแพร่ระบาดจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากเราเป็นเมืองท่องเที่ยวมีเศรษฐกิจที่ดี จึงเป็นเป้าหมายของผู้ค้า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อยและรายกลาง ส่วนของรายใหญ่นั้นไม่มี รวมไปถึงไม่มีการผลิตในพื้นที่ แต่จะเป็นจุดพักหรือกระจายสินค้า แม้ว่าจะมีการปราบปรามและจับกุมอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังมีการหมุนเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นายตรี ยังกล่าวอีกว่า ในการจัดทำค่ายบำบัดรักษานั้น เจตนาเพื่อกดดันให้ผู้เสพได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่มีปัญหาการไม่ได้รับความร่วมมือจากสถานบันการศึกษาหรือผู้ปกครองเท่าที่ควร เนื่องจากกลัวเสียชื่อเสียง