สถานการณ์น้ำป่าที่สุราษฎร์ฯยังน่าห่วง

สุราษฎร์ธานี - หน่วยกู้ภัยยังคงเร่งส่งเสบียงให้ผู้ประสพภัยที่ถูกตัดขาดในขณะที่ในพื้นที่ยังมีฝนตกและน้ำป่ายังคงไหลหลาก

เช้าวันนี้ (4 ม.ค.) นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธายังคงลำเรียงอาหาร น้ำดื่ม ยาแก้ไข้ ผ่านทางลวดสลิงข้ามคลองครามอย่างต่อเนื่องเพื่อเดินเท้าเข้าพื้นที่กว่า 3 กม.นำสิ่งของเข้าไปส่งกับผู้ประสบภัยกว่า 50 ครัวเรือน ในพื้นที่บ้านหน้าถ้ำ หมู่ที่ 13 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินเท้าเข้าพื้นที่เพื่อไปอพยพ เด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ ออกจากพื้นที่ แต่ไม่สามารถนำออกมาได้ เนื่องเป็นเวลามืดค่ำ และมีฝนตกน้ำป่ายังคงไหลหลากอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง

ชาวบ้านยังเดินฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก โดยมีใช้ลวดสลิงและเชือกที่ทางหน่วยกู้ภัยผูกไว้เกาะยึดเหนี่ยวป้องกันตัว ซึ่งขณะนี้มีหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ไฟฟ้าดับเสาไฟฟ้าล้ม น้ำป่ายังไหลอย่างรุนแรง ทำให้ยังคงถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ต้องนำลวดสลิงและเชือกมาผูกโยงเพื่อใช้ลำเลียงอาหารและน้ำดื่มเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนสภาพอากาศยังคงมีเมฆปกคลุมและฝนตกบางช่วง

ด้าน นายธรรมรงค์ มณีโชติ นายก อบต.คลองสระ กล่าวว่า ครั้งนี้น้ำป่ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรงทำให้ถนนและสะพานถูกตัดขาดหลายจุด ไฟฟ้าดับ เสาไฟฟ้าล้ม มีประชาชนในพื้นที่ตำบลครองสระได้รับความเดือดร้อนประมาณ 800 ครัวเรือนหรือกว่า 3,000 คนที่ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงประมาณ 400 ครัวเรือน ประกอบด้วย บ้านกงตอหมู่ที่ 9 บ้านม่วงลีบ หมู่ที่ 2 และบ้านปากฮายหมู่ที่ 10

ในขณะ นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในอำเภอกาญจนดิษฐ์ และได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งเคลียร์พื้นที่หลังน้ำลดเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น เป็นการชั่วคราวก่อน พร้อมขอกำลังทหารจากค่ายวิภาวดีรังสิตสุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ ช่วยอพยพประชาชนหากมีความจำเป็น