ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “กี้ร์” เผยหลังได้รับการประกันตัวจากศาลสงขลา ตนไม่ใช่คนรุนแรง เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉาก ที่กลับมาเพราะอยากเห็นบรรยากาศปรองดองคนไทยรักกัน ทนายยื่นเรื่องขอย้ายคดีไปกรุงเทพฯ หลังถูกกลุ่มมวลชนในพื้นที่ต่อต้านอ้างไม่ปลอดภัย
วันนี้ (29 ธ.ค.) หลังจากที่ศาลจังหวัดสงขลาได้พิจารณาไต่สวนคดีอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หรือ “กี้ร์” แกนนำ นปช.ถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นประมาท (ด้วยการโฆษณา) นายศิริโชค โสภา ส.ส.เขต 7 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายอริสมันต์ และนัดพร้อมคดีในวันที่ 22 กุมพาพันธ์ 2555 เพื่อให้คู่ความทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็จะนัดพิจารณาสืบพยานอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายอริสมันต์ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการประกันตัวว่า เป็นความเมตตาของศาล โดยคดีนี้เป็นคดีเล็กศาลได้แนะนำให้ใช้วิธีไกล่เกลี่ย ซึ่งในทางการเมืองเป็นเรื่องปกติที่ต้องกระทบกระทั่งการบ้าง ซึ่งตนก็เพิ่งทราบว่าคดีนี้มาจากการปราศรัยที่มีการพูดถึงเรื่องการโยกย้ายตำรวจและกรณีการเสียชีวิตของจ่าเพียร พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา สำหรับบทบาทในฐานะแกนนำ นปช.หลังจากนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ โดยจะให้ประชาชนเขียน ส.ค.ส.จดหมาย หรือไปรษณียบัตร เกี่ยวกับความต้องการที่จะให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อตอบแทนวีรชนที่เสียชีวิตจากการเรียกร้องประชาธิปไตย แทนการเคลื่อนขบวนเข้ามากรุงเทพฯ แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการและอยากเห็นว่ามวลชนคนเสื้อแดงมีแค่ไหนก็พร้อมที่จะแสดงให้เห็นว่ามีเป็นจำนวนมากและพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายอริสมันต์กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนรุนแรง เหตุที่เกิดความรุนแรงเพราะการจัดฉากเอาไว้แล้วและมีการทำร้ายประชาชนก่อน หากตนมีโอกาสก็อยากจะออกทีวีเพื่อบอกถึงสาเหตุเกิดจากอะไร และใครเป็นคนวางแผน ซึ่งการกลับมาของตนนั้นเพราะอยากเห็นบรรยากาศการปรองดอง เห็นคนไทยรักกัน ไม่แบ่งสีแบ่งฝ่าย ความสุขของคนไทยหายไปนาน ถึงเวลาที่จะนำความสงบสุขกลับคืนมา โดยเฉพาะทางภาคใต้ควรใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวรุนแรง หลังจากนี้จะใช้วิธีให้อภัยเป็นเครื่องมือในการสร้างความปรองดอง ซึ่งใจของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จะให้อภัย ส่วนเรื่องการกระทำความผิดเป็นเรื่องของศาลที่จะดำเนินคดี ส่วนศาลจะเมตตาหรืออภัยหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่นายอริสมันต์พร้อมคณะได้นั่งรถตู้เดินทางออกจากศาลได้มีกลุ่มตัวแทนชาวสงขลาประมาณ 100 คน มาชุมนุมที่หน้าประตูทางเข้าออกของศาลพร้อมกับชูป้ายโจมตี และพากันมายืนขวางรถตู้ของนายอริสมันต์เป็นเวลาประมาณ 2 นาที เพื่อแสดงพลังและชูป้ายขับไล่ ก่อนที่จะตำรวจจะเข้ามาเคลียร์และเปิดเส้นทางให้นายอริสมันต์ออกไปได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางเสียงโห่ไล่ โดยนายอริสมันต์ได้เดินทางไปพบและรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำคนเสื้อแดงใน จ.สงขลา ก่อนที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯในเวลาประมาณ 1 ทุ่มวันนี้ โดยมีกำลังตำรวจ สภ.หาดใหญ่ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมารายงานตัวต่อศาลนั้นทางทีมทนายความยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอย้ายคดีไปยังกรุงเทพฯ แต่อย่างใดโดยจะดำเนินการอีกครั้งหลังปีใหม่ ซึ่งนายวรกร พงศ์ธนากุล หนึ่งในทนายความเผยว่าจะนำหลักฐานที่มีกลุ่มประชาชนมาชุมนุมขับไล่บริเวณหน้าศาลประกอบการยื่นเรื่องขอโอนคดีเพราะแสดงให้เห็นว่าไม่มีความปลอดภัย
