นราธิวาส - ชาวนราธิวาสรวมตัวกันประท้วงนำต้นไม้มาปลูกบนถนนสายรอยต่อระหว่าง อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก ที่มีลักษณะเป็นหลุมเกือบตลอดสาย โดยได้รับผลกระทบจากการใช้เส้นทางนานร่วม 10 ปี โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยให้ความสนใจ
วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนลาดยางสายรอยต่อระหว่าง อ.สุไหงปาดี กับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีระยะทาง 11 กิโลเมตร ผ่าน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านป่าเย ม.10 บ้านโคกไร่ใหญ่ ม. 12 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี บ้านปูโย๊ะ ม.2 ต.ปูโย๊ะ บ้านตือระ ม.2 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก มีชาวบ้านอาศัยอยู่จำนวน 250 ครัวเรือน รวม 875 คนต้องจำยอมทนทุกข์ใช้ถนนสายดังกล่าวมานานร่วม 10 ปี ในการขนผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยางพาราและผักผลไม้ออกจำหน่ายผ่านเส้นทางที่ผิวถนนมีลักษณะเป็นหลุมเป็นบ่อเกือบตลอดสาย จากผลพวงของสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใน 4 หมู่บ้านของ 2 อำเภอ ต้องประสบกับอุบัติเหตุทางถนนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไปแล้วเป็นจำนวนมาก
โดยตัวแทนชาวบ้านทั้งชายและหญิงรวมทั้งเด็กที่อาศัยอยู่ใน 4 หมู่บ้าน ได้รวมตัวกันนำต้นมะพร้าว และต้นกล้วยมาปลูกไว้ในหลุมบนถนน ส่วนหลุมที่มีขนาดลึกมากชาวบ้านได้นำล้อยางของรถยนต์มาวางบดบังไว้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้น พร้อมเขียนข้อความร้องทุกข์ผ่านสื่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปดูแลและแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ชาวบ้านใน 4 หมู่บ้าน จะประสบอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ถนนสายดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโครงการพระราชดำริฯ มีฟาร์มตัวอย่างศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร แต่ถูกผู้ที่เกี่ยวข้องปล่อยทิ้งขว้างให้กลายสภาพเหมือนเป็นสนามแข่งรถจักรยานยนต์วิบากไปแล้วในขณะนี้