นราธิวาส - ผอ.รพ.สุไหงโก-ลก มั่นใจน้ำท่วมเขตอุตสาหกรรมโรงงานผลิตเวชภัณฑ์ในภาคกลาง ไม่กระทบการให้บริการทางการแพทย์ของ รพ.ทั้งนี้ เตรียมจัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตให้มีความต่อเนื่องเพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น
วันนี้ (9 พ.ย.) นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเขตอุตสาหกรรมซึ่งมีโรงงานสำหรับผลิตเวชภัณฑ์ทางการแพทย์หลายบริษัทรวมอยู่ด้วยว่า สถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เนื่องจากได้จัดระบบการสำรองยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในแต่ละประเภทไว้แล้ว โดยสามารถสำรองได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่หากสถานการณ์อุทกภัยยืดเยื้อไปอีก โรงพยาบาลก็ทำการสำรองบริษัทคู่ค้าที่เป็นทางเลือกอีกหลายบริษัท ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้
นอกจากนี้ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ยังได้ปรับระบบการให้บริการโดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง อาทิ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือโรคไต ซึ่งปกติจะนัดหมายผู้ป่วยมารับยาเดือนละครั้งเพื่อไปรับประทานที่บ้าน แต่ขณะนี้ได้เพิ่มความถี่ในการนัดรับยาเพื่อให้ยาที่ยังอยู่ในคลังยาของโรงพยาบาลมากขึ้น โดยที่ไม่กระทบกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เพราะเป็นเพียงการจำกัดปริมาณการนำยาออกจากระบบ แต่ยาที่ให้ผู้ป่วยรับประทานยังคงมีจำนวนเท่าเดิม
ขณะที่ในส่วนของธนาคารเลือด ซึ่งจากเดิมจะมีการจัดส่งมาจากสภากาชาดไทยเพื่อสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน แต่จากการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ทำให้เลือดที่สภากาชาดไทยออกรับบริจาคมีไม่เพียงพอที่จะจัดส่งให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้ ซึ่งถึงแม้ขณะนี้ธนาคารเลือดโรงพยาบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังไม่ขาดแคลนเลือดที่ใช้ในการรักษา
แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตให้มีความต่อเนื่องมากขึ้น เพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในพื้นที่และอาจจำเป็นต้องส่งไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในพื้นที่ข้างเคียงด้วย
วันนี้ (9 พ.ย.) นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเขตอุตสาหกรรมซึ่งมีโรงงานสำหรับผลิตเวชภัณฑ์ทางการแพทย์หลายบริษัทรวมอยู่ด้วยว่า สถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เนื่องจากได้จัดระบบการสำรองยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในแต่ละประเภทไว้แล้ว โดยสามารถสำรองได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่หากสถานการณ์อุทกภัยยืดเยื้อไปอีก โรงพยาบาลก็ทำการสำรองบริษัทคู่ค้าที่เป็นทางเลือกอีกหลายบริษัท ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้
นอกจากนี้ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ยังได้ปรับระบบการให้บริการโดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง อาทิ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือโรคไต ซึ่งปกติจะนัดหมายผู้ป่วยมารับยาเดือนละครั้งเพื่อไปรับประทานที่บ้าน แต่ขณะนี้ได้เพิ่มความถี่ในการนัดรับยาเพื่อให้ยาที่ยังอยู่ในคลังยาของโรงพยาบาลมากขึ้น โดยที่ไม่กระทบกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เพราะเป็นเพียงการจำกัดปริมาณการนำยาออกจากระบบ แต่ยาที่ให้ผู้ป่วยรับประทานยังคงมีจำนวนเท่าเดิม
ขณะที่ในส่วนของธนาคารเลือด ซึ่งจากเดิมจะมีการจัดส่งมาจากสภากาชาดไทยเพื่อสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน แต่จากการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ทำให้เลือดที่สภากาชาดไทยออกรับบริจาคมีไม่เพียงพอที่จะจัดส่งให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้ ซึ่งถึงแม้ขณะนี้ธนาคารเลือดโรงพยาบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังไม่ขาดแคลนเลือดที่ใช้ในการรักษา
แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตให้มีความต่อเนื่องมากขึ้น เพื่อสำรองเลือดไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในพื้นที่และอาจจำเป็นต้องส่งไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในพื้นที่ข้างเคียงด้วย