ปัตตานี - ประชาชนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดปัตตานีกว่า 3,000 คน ร่วมละหมาดเทศกาลฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮาประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1432 ซึ่งถือเป็นศาสนกิจที่สำคัญที่สุดของชาวไทยมุสลิม
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น.ที่สนามกีฬากลาง จ.ปัตตานี ชาวไทยมุสลิม ทั้งชายและหญิง รวมไปถึงเด็กกว่า 3,000 คน ได้เดินทางมาร่วมกันประกอบพิธีละหมาดเนื่องในโอกาสวันฮารีรายอ หรือ อีดิ้ลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1432 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอีดิ้ลอัฎฮา โดยในงาน นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมแสดงความยินดีด้วย
ทั้งนี้ การละหมาดวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮานี้ ถือเป็นศาสนกิจที่สำคัญที่สุด ซึ่งชาวมุสลิมทุกเพศทุกวัยจะต้องไปร่วมกันละหมาดที่มัสยิดใกล้บ้าน หรือสถานที่ที่ร่วมกันจัดขึ้น โดยหลังพิธีละหมาด ได้ร่วมรับฟังคุตบะห์ หรือฟังธรรมเทศนา จากโต๊ะอิหม่าม จากนั้น จะมีการแสดงความยินดี และขออภัยต่อกันในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิด ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พร้อมทั้งออกไปเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกัน และที่สำคัญในวันอีดิ้ลอัฎฮา คือ การเชือดสัตว์พลีทาน หรือ “กุรบ่าน” ซึ่งชาวไทยมุสลิมถือว่า การกุรบ่าน จะได้เข้าใกล้ต่อพระเจ้าด้วยการการเชือดสัตว์พลีต่อพระองค์
สำหรับสัตว์ที่นำมาใช้ฆ่า เพื่อทำทาน ในพิธีก็จะมี วัว ควาย แพะ หรือแกะ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี จะนิยมเชือดวัว เพราะวัว 1 ตัว สามารถแบ่งได้ 7 ส่วน และสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว ส่วนเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่าจะนำไปขายไม่ได้ นอกจากทำอาหารเลี้ยง หรือแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้
