ยะลา - ฉก.ยะลา แจ้งเตือนเครือข่ายภาคประชาชน และส่วนราชการ ให้เฝ้าระวังในช่วงวันที่ 6-12 พ.ย.ซึ่งเป็นช่วงวันรายอฮัจญ์ หลังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมลอบวางระเบิดในเมืองยะลา โดยเน้นในชุมชนชาวไทยพุทธ หรือย่านการค้า
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดยะลา ได้แจ้งเตือนเครือข่ายภาคประชาชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เฝ้าระวังการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบภายในบริเวณเขตชุมชนย่านการค้า ย่านชาวไทยพุทธในพื้นที่ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ในห้วงเวลาระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.นี้
โดยมีกระแสข่าวว่า ในห้วงระยะเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลวันรายอฮัจญ์ของมุสลิม แกนนำอาร์เคเคในพื้นที่ ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เขตติดต่อ อ.เมืองยะลา ได้เตรียมการโดยให้แนวร่วมนำรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ซุกระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กก.จำนวนหลายลูก เตรียมเคลื่อนย้ายนำเข้าไปก่อเหตุในเขตเทศบาลนครยะลา
โดยมีเป้าหมายบริเวณที่เป็นแหล่งการค้าของชาวไทยพุทธ หรือชาวไทยเชื้อสายจีน แหล่งบันเทิง ย่านถนนรวมมิตร โรงแรม โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกตัดกับถนนรัฐคำนึง เขตเทศบาลนครยะลา หากหน่วยใดพบรถยนต์ตามเบาะแสให้รีบแจ้งให้ทางการทราบโดยด่วน เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการหรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบต่อไป
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดยะลา ได้แจ้งเตือนเครือข่ายภาคประชาชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เฝ้าระวังการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบภายในบริเวณเขตชุมชนย่านการค้า ย่านชาวไทยพุทธในพื้นที่ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ในห้วงเวลาระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.นี้
โดยมีกระแสข่าวว่า ในห้วงระยะเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลวันรายอฮัจญ์ของมุสลิม แกนนำอาร์เคเคในพื้นที่ ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เขตติดต่อ อ.เมืองยะลา ได้เตรียมการโดยให้แนวร่วมนำรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ซุกระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กก.จำนวนหลายลูก เตรียมเคลื่อนย้ายนำเข้าไปก่อเหตุในเขตเทศบาลนครยะลา
โดยมีเป้าหมายบริเวณที่เป็นแหล่งการค้าของชาวไทยพุทธ หรือชาวไทยเชื้อสายจีน แหล่งบันเทิง ย่านถนนรวมมิตร โรงแรม โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกตัดกับถนนรัฐคำนึง เขตเทศบาลนครยะลา หากหน่วยใดพบรถยนต์ตามเบาะแสให้รีบแจ้งให้ทางการทราบโดยด่วน เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการหรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบต่อไป