ระนอง-จังหวัดระนองมอบเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรที่เครื่องมือทำกินได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม จำนวน 27 ราย เป็นเงิน 265,000 บาท
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ศาลาประชาคมอำเภอกะเปอร์ นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพการประมงในพื้นที่อำเภอกะเปอร์ที่ประสบอุทกภัยซึ่งทรัพย์สินได้รับความเสียจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จำนวน 27 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 265,000 บาท
นายสมกิจ เสวกวัชรี นายอำเภอกะเปอร์ กล่าวว่า ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม 2554 ทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาและปูนิ่มในกระชังในพื้นที่ตำบลกะเปอร์และตำบลม่วงกลวง โดยกระแสน้ำได้พัดพากระชังปลาและกระชังปูและอุปกรณ์การเลี้ยงของเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 27 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเป็นเงิน 883,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือ ก.ช.ภ.ระดับอำเภอและจังหวัด ได้มีมติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรทั้ง 27 ราย วงเงิน 267,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทรัพย์สินอุปกรณ์ทำกินของเกษตรกรได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติมากกว่าเงินที่ทางราชการจ่ายชดเชยให้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แต่ขอให้เกษตรกรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการประกอบอาชีพ
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ศาลาประชาคมอำเภอกะเปอร์ นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพการประมงในพื้นที่อำเภอกะเปอร์ที่ประสบอุทกภัยซึ่งทรัพย์สินได้รับความเสียจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จำนวน 27 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 265,000 บาท
นายสมกิจ เสวกวัชรี นายอำเภอกะเปอร์ กล่าวว่า ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม 2554 ทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาและปูนิ่มในกระชังในพื้นที่ตำบลกะเปอร์และตำบลม่วงกลวง โดยกระแสน้ำได้พัดพากระชังปลาและกระชังปูและอุปกรณ์การเลี้ยงของเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 27 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเป็นเงิน 883,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือ ก.ช.ภ.ระดับอำเภอและจังหวัด ได้มีมติให้ความช่วยเหลือเกษตรกรทั้ง 27 ราย วงเงิน 267,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทรัพย์สินอุปกรณ์ทำกินของเกษตรกรได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติมากกว่าเงินที่ทางราชการจ่ายชดเชยให้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แต่ขอให้เกษตรกรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการประกอบอาชีพ
