ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย จ.สงขลา แสดงความห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย โดยได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในเวลาที่เหมาะสมและทันท่วงที พร้อมกันนี้ ยังได้มีคาราวานรถยนต์ออฟโร้ดเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งมีผู้สื่อข่าวที่พร้อมจะนำเสนอข่าวรายงานสถานการณ์จริงในต่างประเทศอีกด้วย
นายเฮรู วิจักโซโน กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย จ.สงขลา กล่าวในงานสังสรรค์สื่อมวลชนภาคใต้กับสถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา 24 ตุลาคม 2554 ณ ห้องปาริชาติ โรงแรมซากุระ แกรนด์วิว หาดใหญ่ สงขลา ว่า ได้ทราบและติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย โดยเฉพาะล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร อินโดนีเซีย ในฐานะมิตรประเทศและประธานอาเซียน ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิดและได้แสดงความห่วงใยมายังรัฐบาลและพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ประสบกับความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสียหายต่อสังคมโดยรวม เศรษฐกิจและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ร้ายแรงในครั้งนี้ อินโดนีเซียพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบและให้ความช่วยเหลือในเวลาที่เหมาะสมและทันท่วงที ด้วยแนวทางที่สร้างเสริมความเป็นเอกภาพของความเป็นประชาคมอาเซียนร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่สภาวะปกติในเวลาอันรวดเร็ว
“ผมได้มาดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลานี้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 และประเทศอินโดนีเซียก็เพิ่งเฉลิมฉลอง 66 ปีการประกาศเอกราชของประเทศอินโดนีเซียไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานกงสุลก็ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองวาระนั้นร่วมกันกับเพื่อนพ้องพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน ไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2011” นายเฮรู กล่าวต่อและว่า
นอกเหนือจากจะเป็นการเฉลิมฉลองแล้วนั้น เรายังถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณในความร่วมมือและบอกกล่าวความคืบหน้าของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและอินโดนีเซียที่ได้เจริญรุดหน้าเรื่อยมาตลอดระยะเวลา 61 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและอินโดนีเซีย ที่ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1950 ตนได้รับรู้และมีส่วนร่วมในหลากหลายความร่วมมือในสาขาต่างๆ อาทิเช่น การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การประมง สังคมและวัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา กิจการงานกงสุล และงานด้านต่างประเทศ
“การพัฒนาการของความร่วมมือในด้านต่างๆ เหล่านี้ ทำให้การปฎิบัติภารกิจที่นี่มีความหมายและทรงคุณค่ามากมาย สถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้ปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน เหล่าทัพ องค์กรอิสระ คณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักเรียนนักศึกษาและสื่อมวลชน และงานของเราไม่เพียงแต่จะมุ่งหวังพัฒนาความร่วมมือเท่านั้น หากแต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ สัญชาติและศาสนา เรามีความเชื่อว่า ไม่มีบุคคลใดสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ดังนั้น เราควรเรียนรู้ที่จะให้และแบ่งปันซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกชีวิตสามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และด้วยความร่วมมืออันดียิ่งระหว่างเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาและสถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่สถานกงสุล ฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเรามีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นผู้ให้การบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกทั้งชาวอินโดนีเซียและไทยได้เข้าร่วมบริจาคและร่วมกิจกรรมของเรา”
ในขณะที่กิจกรรมหลายๆ กิจกรรมได้ดำเนินไปโดยสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ กิจกรรมที่ยังอยู่ในระยะเตรียมการและต้องการการสนับสนุนก่อนที่จะถึงสิ้นปี อาทิเช่น การสัมมนาให้ความรู้เรื่องกฎระเบียบของการประกอบการประมงและการบริหารจัดการลูกเรือประมง การประชุมเชิงธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และการพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษา
นายเฮรู กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีคณะคาราวานรณรงค์การใช้น้ำมันเครื่องฟาสตรอนจากอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของมิสเตอร์ บูเช็ค ดีฟ ประธานกลุ่มนักสำรวจและนักขับขี่รถยนต์ออฟโร้ดอินโดนีเซีย ประกอบด้วย ตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวี, ตัวแทนสำนักข่าวรอยน์เตอร์ และอันตะระ และสำนักข่าวอินโดนีเซีย และกลุ่มนักสำรวจ นักขับรถออฟโร้ด ซึ่งวัตถุประสงค์การเดินทางของคณะคาราวานนี้ได้เดินทางมาเพื่อถ่ายทำข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครจากสถานที่จริง และเส้นทางต่อไปของคณะนี้จะเดินทางผ่านประเทศตุรกีซึ่งได้ประสบเหตุแผ่นดินไหวไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง ในช่วงระหว่างการเดินทางเพื่อถ่ายทำข่าวจากสถานที่จริงของแต่ละประเทศนั้น คณะนักสำรวจก็ยังได้ตามรอยเส้นทางการค้าประวัติศาสตร์ระหว่างอินโดนีเซียและยุโรปที่มาร์โค โปโลได้บันทึกไว้อีกด้วย
นายเฮรู วิจักโซโน กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย จ.สงขลา กล่าวในงานสังสรรค์สื่อมวลชนภาคใต้กับสถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา 24 ตุลาคม 2554 ณ ห้องปาริชาติ โรงแรมซากุระ แกรนด์วิว หาดใหญ่ สงขลา ว่า ได้ทราบและติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย โดยเฉพาะล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร อินโดนีเซีย ในฐานะมิตรประเทศและประธานอาเซียน ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิดและได้แสดงความห่วงใยมายังรัฐบาลและพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ประสบกับความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสียหายต่อสังคมโดยรวม เศรษฐกิจและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ร้ายแรงในครั้งนี้ อินโดนีเซียพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบและให้ความช่วยเหลือในเวลาที่เหมาะสมและทันท่วงที ด้วยแนวทางที่สร้างเสริมความเป็นเอกภาพของความเป็นประชาคมอาเซียนร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่สภาวะปกติในเวลาอันรวดเร็ว
“ผมได้มาดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลานี้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 และประเทศอินโดนีเซียก็เพิ่งเฉลิมฉลอง 66 ปีการประกาศเอกราชของประเทศอินโดนีเซียไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานกงสุลก็ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองวาระนั้นร่วมกันกับเพื่อนพ้องพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน ไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2011” นายเฮรู กล่าวต่อและว่า
นอกเหนือจากจะเป็นการเฉลิมฉลองแล้วนั้น เรายังถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณในความร่วมมือและบอกกล่าวความคืบหน้าของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและอินโดนีเซียที่ได้เจริญรุดหน้าเรื่อยมาตลอดระยะเวลา 61 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและอินโดนีเซีย ที่ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1950 ตนได้รับรู้และมีส่วนร่วมในหลากหลายความร่วมมือในสาขาต่างๆ อาทิเช่น การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การประมง สังคมและวัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา กิจการงานกงสุล และงานด้านต่างประเทศ
“การพัฒนาการของความร่วมมือในด้านต่างๆ เหล่านี้ ทำให้การปฎิบัติภารกิจที่นี่มีความหมายและทรงคุณค่ามากมาย สถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้ปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน เหล่าทัพ องค์กรอิสระ คณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักเรียนนักศึกษาและสื่อมวลชน และงานของเราไม่เพียงแต่จะมุ่งหวังพัฒนาความร่วมมือเท่านั้น หากแต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ สัญชาติและศาสนา เรามีความเชื่อว่า ไม่มีบุคคลใดสามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ดังนั้น เราควรเรียนรู้ที่จะให้และแบ่งปันซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกชีวิตสามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และด้วยความร่วมมืออันดียิ่งระหว่างเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาและสถานกงสุลอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่สถานกงสุล ฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเรามีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นผู้ให้การบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกทั้งชาวอินโดนีเซียและไทยได้เข้าร่วมบริจาคและร่วมกิจกรรมของเรา”
ในขณะที่กิจกรรมหลายๆ กิจกรรมได้ดำเนินไปโดยสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ กิจกรรมที่ยังอยู่ในระยะเตรียมการและต้องการการสนับสนุนก่อนที่จะถึงสิ้นปี อาทิเช่น การสัมมนาให้ความรู้เรื่องกฎระเบียบของการประกอบการประมงและการบริหารจัดการลูกเรือประมง การประชุมเชิงธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และการพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษา
นายเฮรู กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีคณะคาราวานรณรงค์การใช้น้ำมันเครื่องฟาสตรอนจากอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของมิสเตอร์ บูเช็ค ดีฟ ประธานกลุ่มนักสำรวจและนักขับขี่รถยนต์ออฟโร้ดอินโดนีเซีย ประกอบด้วย ตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวี, ตัวแทนสำนักข่าวรอยน์เตอร์ และอันตะระ และสำนักข่าวอินโดนีเซีย และกลุ่มนักสำรวจ นักขับรถออฟโร้ด ซึ่งวัตถุประสงค์การเดินทางของคณะคาราวานนี้ได้เดินทางมาเพื่อถ่ายทำข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครจากสถานที่จริง และเส้นทางต่อไปของคณะนี้จะเดินทางผ่านประเทศตุรกีซึ่งได้ประสบเหตุแผ่นดินไหวไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง ในช่วงระหว่างการเดินทางเพื่อถ่ายทำข่าวจากสถานที่จริงของแต่ละประเทศนั้น คณะนักสำรวจก็ยังได้ตามรอยเส้นทางการค้าประวัติศาสตร์ระหว่างอินโดนีเซียและยุโรปที่มาร์โค โปโลได้บันทึกไว้อีกด้วย