นครศรีธรรมราช - เกษตรนครศรีฯ ฟันธงจ่อวิกฤตอาหารขาดแคลน ภาคใต้ผลิตไม่เพียงพอแน่นอน เตรียมส่งเสริมขยายพื้นที่ปลูกข้าวต่อเนื่อง-ผู้ค้าโอดผักจากเหนือ กลาง เริ่มขาดตลาด ราคาขยับพ่อค่าหัวใสดอดซื้อกะหล่ำปลีใต้กลับเมืองกรุง ฟันราคากว่าเท่าตัว
วันนี้ (25 ต.ค.) นายเหมวงศ์ ประกอบบุญศิลป์ เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้การผลิตพืชผักบริโภคในพื้นที่ภาคใต้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ การผลิตนั้นจริงอยู่พื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะลุ่มน้ำปากพนังเป็นแหล่งผลิตส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนจะมาจากภาคเหนือและภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ เช่น กะหล่ำปี ผักกาด เป็นต้น ส่วนในลุ่มน้ำปากพนังและภาคใต้ผลิตผักพื้นเมืองอยู่แล้ว เช่น พริก ฟักทอง ฟักเขียว แตงกวา ถั่วฝักยาว และผักเบญจพรรณต่างๆ ขณะนี้เรามีความกังวลในเรื่องของน้ำท่วมภาคใต้ในช่วง เดือน พ.ย.ตามแนวพาดผ่านของมรสุม ซึ่งหากท่วมตามการพยากรณ์แล้วพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดของลุ่มน้ำจมน้ำทั้งหมดอย่างแน่นอน ยิ่งส่งผลให้เกิดการขาดแคลนขึ้นอีก
“ในส่วนของผักที่มายังภาคใต้จากภาคเหนือนั้นเดิมทีมากระจายอยู่ที่สี่มุมเมืองและตลาดไท เข้าใจว่าจะเลยลงใต้มาเลยซึ่งคงหาเส้นทางเลี่ยง กทม.มาได้บ้าง แต่ปริมาณที่ลงมาในภาคใต้จุดหลักคือที่ ตลาดรวมพืชผล อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปริมาณลดลงไปมากส่งผลให้ราคาขยับขึ้นมาเล็กน้อย” เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว
เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกส่วน คือ เรื่องข้าวกังวลอยู่ว่าจะเป็นสิ่งที่วิกฤติตามมาหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวสำคัญตั้งแต่ชัยนาทลงมามีปัญหามากเช่นกัน ดังนั้นในส่วนของลุ่มน้ำปากพนังยังมีพื้นที่รองรับในการปลุกข้าวจะได้ส่งเสริมการปลุกข้าวอย่างเร่งด่วนเพื่อให้พอกับความต้องการบริโภค
ขณะที่ นางสาย วิชชุมาศ ผู้ค้าส่งผักผลไม้ ในตลาดรวมพืชผล อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งรวมพืชผักที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เปิดเผยว่า ระยะนี้ผักสดจากภาคกลางและภาคเหนือเริ่มมีปัญหาในการขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม ยังพอมีอยู่บ้างราคาขยับขึ้นมาเพียง กก.ละสิบบาท เช่นกะหล่ำ ผักกาด ผักเมืองเหนือต่างๆ ส่วนหอมใหญ่ กระเทียม นั้นไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นสินค้าที่มาจากประเทศจีน
“ผักที่ช่วยดึงไม่ให้ราคาสูงมากในขณะนี้เป็นผักที่มาจากภาคใต้เอง โดยเฉพาะในแถบลุ่มน้ำปากพนัง เป็นผักคะน้า กวางตุ้ง ซึ่งยังพอมีบ้างแต่เริ่มขาดตลาดส่วนอื่นๆ เช่นผักกาดผอม ต้นหอม ผักชี ถั่วฝักยาว แตงกวา มะนาว พริกประเภทต่างๆ ซึ่งยังทรงตัวอยู่ได้แต่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าไม่แน่ว่าจะเกิดกับภาวะขาดแคลนสินค้าอาหารหรือไม่” ผู้ค้ารายนี้ กล่าว
ด้าน นางทูน แก้วมณี เจ้าของแผงค้าส่งอีกราย เปิดเผยว่าขณะนี้ผักที่เข้าสู่ตลาดรวมพืชผลนครศรีธรรมราช นั้นเป็นผักวันต่อวันเนื่องจากเป็นผักที่แช่น้ำมาจากแถบน้ำท่วม เน่าง่ายดังนั้นจะต้องขายให้หมดภายใน 1 วันไม่เช่นนั้นจะเน่าเสียหายเร็ว และขณะนี้ผักที่เริ่มขาดตลาดนั้นจะเป็นผักจำพวกคะน้า กวางตุ้ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะขาดหายไปเลยในช่วงนี้
ขณะที่ผู้ค้าอีกรายไม่ประสงค์จะเปิดออกนาม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพ่อค้าหัวใส่ส่งรถบรรทุกขนาดใหญ่มารับซื้อกะหล่ำปลีจากนครศรีธรรมราช ที่เดิมนั้นส่งมาจากทางภาคเหนือกลับไปขายที่ กทม.เนื่องจากขณะนี้ที่ กทม.มีราคาสูงถึง กก.ละกว่า 50 บาท ขณะที่นครศรีธรรมราชยังอยู่ที่ราคา 20 บาทเศษ พ่อค้าคนกลางเหล่านั้นมาซื้อเพื่อไปทำกำไรในกรุงเทพฯอีกทอด
วันนี้ (25 ต.ค.) นายเหมวงศ์ ประกอบบุญศิลป์ เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้การผลิตพืชผักบริโภคในพื้นที่ภาคใต้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ การผลิตนั้นจริงอยู่พื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะลุ่มน้ำปากพนังเป็นแหล่งผลิตส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนจะมาจากภาคเหนือและภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ เช่น กะหล่ำปี ผักกาด เป็นต้น ส่วนในลุ่มน้ำปากพนังและภาคใต้ผลิตผักพื้นเมืองอยู่แล้ว เช่น พริก ฟักทอง ฟักเขียว แตงกวา ถั่วฝักยาว และผักเบญจพรรณต่างๆ ขณะนี้เรามีความกังวลในเรื่องของน้ำท่วมภาคใต้ในช่วง เดือน พ.ย.ตามแนวพาดผ่านของมรสุม ซึ่งหากท่วมตามการพยากรณ์แล้วพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดของลุ่มน้ำจมน้ำทั้งหมดอย่างแน่นอน ยิ่งส่งผลให้เกิดการขาดแคลนขึ้นอีก
“ในส่วนของผักที่มายังภาคใต้จากภาคเหนือนั้นเดิมทีมากระจายอยู่ที่สี่มุมเมืองและตลาดไท เข้าใจว่าจะเลยลงใต้มาเลยซึ่งคงหาเส้นทางเลี่ยง กทม.มาได้บ้าง แต่ปริมาณที่ลงมาในภาคใต้จุดหลักคือที่ ตลาดรวมพืชผล อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปริมาณลดลงไปมากส่งผลให้ราคาขยับขึ้นมาเล็กน้อย” เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว
เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกส่วน คือ เรื่องข้าวกังวลอยู่ว่าจะเป็นสิ่งที่วิกฤติตามมาหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวสำคัญตั้งแต่ชัยนาทลงมามีปัญหามากเช่นกัน ดังนั้นในส่วนของลุ่มน้ำปากพนังยังมีพื้นที่รองรับในการปลุกข้าวจะได้ส่งเสริมการปลุกข้าวอย่างเร่งด่วนเพื่อให้พอกับความต้องการบริโภค
ขณะที่ นางสาย วิชชุมาศ ผู้ค้าส่งผักผลไม้ ในตลาดรวมพืชผล อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งรวมพืชผักที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เปิดเผยว่า ระยะนี้ผักสดจากภาคกลางและภาคเหนือเริ่มมีปัญหาในการขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม ยังพอมีอยู่บ้างราคาขยับขึ้นมาเพียง กก.ละสิบบาท เช่นกะหล่ำ ผักกาด ผักเมืองเหนือต่างๆ ส่วนหอมใหญ่ กระเทียม นั้นไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นสินค้าที่มาจากประเทศจีน
“ผักที่ช่วยดึงไม่ให้ราคาสูงมากในขณะนี้เป็นผักที่มาจากภาคใต้เอง โดยเฉพาะในแถบลุ่มน้ำปากพนัง เป็นผักคะน้า กวางตุ้ง ซึ่งยังพอมีบ้างแต่เริ่มขาดตลาดส่วนอื่นๆ เช่นผักกาดผอม ต้นหอม ผักชี ถั่วฝักยาว แตงกวา มะนาว พริกประเภทต่างๆ ซึ่งยังทรงตัวอยู่ได้แต่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าไม่แน่ว่าจะเกิดกับภาวะขาดแคลนสินค้าอาหารหรือไม่” ผู้ค้ารายนี้ กล่าว
ด้าน นางทูน แก้วมณี เจ้าของแผงค้าส่งอีกราย เปิดเผยว่าขณะนี้ผักที่เข้าสู่ตลาดรวมพืชผลนครศรีธรรมราช นั้นเป็นผักวันต่อวันเนื่องจากเป็นผักที่แช่น้ำมาจากแถบน้ำท่วม เน่าง่ายดังนั้นจะต้องขายให้หมดภายใน 1 วันไม่เช่นนั้นจะเน่าเสียหายเร็ว และขณะนี้ผักที่เริ่มขาดตลาดนั้นจะเป็นผักจำพวกคะน้า กวางตุ้ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะขาดหายไปเลยในช่วงนี้
ขณะที่ผู้ค้าอีกรายไม่ประสงค์จะเปิดออกนาม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพ่อค้าหัวใส่ส่งรถบรรทุกขนาดใหญ่มารับซื้อกะหล่ำปลีจากนครศรีธรรมราช ที่เดิมนั้นส่งมาจากทางภาคเหนือกลับไปขายที่ กทม.เนื่องจากขณะนี้ที่ กทม.มีราคาสูงถึง กก.ละกว่า 50 บาท ขณะที่นครศรีธรรมราชยังอยู่ที่ราคา 20 บาทเศษ พ่อค้าคนกลางเหล่านั้นมาซื้อเพื่อไปทำกำไรในกรุงเทพฯอีกทอด
