ตรัง - หนุ่มรับจ้างเลื่อยไม้เมืองตรังเข้ามอบตัวสู้คดี หลังตกเป็นผู้ต้องหายิง รปภ.บ้านพักเสี่ยปุ้มปุ้ย-ปลายิ้มจนเสียชีวิต แต่ยังปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ส่วนปมสังหารคาดมาจากความแค้นเรื่องผู้จัดการมรดก
จากกรณีที่คนร้าย 1 คนได้ขับขี่จักรยานยนต์เข้าประกบนายสมศักดิ์ ศรีแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 1 ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ประจำบ้านพักของนายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และเจ้าของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ “ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม” ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิงเข้าที่ท้ายทอยของนายสมศักดิ์ 1 นัด จนล้มลงเสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดง บนถนนเพชรเกษม สายตรัง-ห้วยยอด หน้าตลาดเทศบาลตำบลคลองเต็ง เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 23 ต.ค. 2554 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.คณากร ดลเกศศิริ สว.สส.สภ.บ้านคลองเต็ง เปิดเผยว่าว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมอบตัวนายสมชัย ภักดีไทย อายุ 20 ปี ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างเลื่อยไม้ อยู่บ้านเลขที่ 49/4 หมู่ที่ 5 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ในคดีฆ่านายสมศักดิ์ รปภ.คนดังกล่าว ก่อนจะส่งมอบตัวให้ ร.ต.ท.จิตติชัย รัตนวรประดิษฐ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านคลองเต็ง เจ้าของคดี ดำเนินการสอบปากคำ และดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นนายสมชัยยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่รู้จักและไม่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ตายมาก่อน จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการเสียชีวิตดังกล่าว อีกทั้งในวันเกิดเหตุยังมีพยานยืนยันได้ว่าตนเองกำลังนั่งกินกาแฟอยู่ที่บ้านพักตลอดเวลาและไม่ได้ออกไปไหน กระทั่งเมื่อมาทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับจึงติดต่อเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี
พ.ต.ท.คณากร ดลเกศศิริ สว.สส.สภ.บ้านคลองเต็ง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ โดยทั้งหมดให้การยืนยันตรงกันว่า นายสมชัย คือคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนจ่อยิง รปภ.คนดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ทั้งนี้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่หนักใจ เพราะมีทั้งพยานแวดล้อมและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมจะยื่นขอคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนอย่างถึงที่สุด
สำหรับชนวนเหตุของการสังหารโหดในครั้งนี้ มาจากความขัดแย้งส่วนตัวในเรื่องที่คนใกล้ชิดกับผู้ตายเคยมีปากเสียงโต้เถียงกันอย่างรุนแรง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่พ่อตาของคนใกล้ชิดดังกล่าวซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ได้มอบอำนาจให้ผู้ตายเป็นผู้ดูแลจัดการมรดกทุกอย่าง เช่น จักรยานยนต์ ที่ดินในอำเภอย่านตาขาว และเงินที่พ่อตาให้ผู้ตายไปปล่อยเงินกู้ เนื่องจากมีความรัก เอ็นดู และให้ความไว้วางใจกันมานานแล้ว จนเป็นเหตุให้ฝ่ายของผู้ต้องหาไม่พอใจจึงวางแผนสังหารดังกล่าว ส่วนประเด็นชู้สาวนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตั้งเป็นประเด็นรอง