ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ (DMAT) ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตยังยืนหยัดช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อเนื่อง พบประชาชนเจ็บป่วยจำนวนมาก
นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการส่งทีมแพทย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หรือ ทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ (DMAT) ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า หลังจากเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลป่าตอง โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ (DMAT) เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ โดยมีการสับเปลี่ยนกำลังแพทย์-พยาบาลเป็นชุดที่ 3 แล้ว
ชุดแรกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2554 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีทีมแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลป่าตอง โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลเอกชน และมูลนิธิกุศลธรรม นำโรงพยาบาลสนาม เวชภัณฑ์ต่างๆเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีอาการเจ็บป่วย สำหรับการเดินทางปฏิบัติหน้าที่ของทีม DMAT ชุดแรกนำโดยนายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่5 -14 ต.ค. 2554
หลังจากนั้นได้มีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 เข้าปฏิบัติงาน โดยชุดนี้มีทีมแพทย์ พยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่กว่า 30 ชีวิต นำโดยนพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการ รพ.ป่าตอง เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ (21 ต.ค.)
การทำงานชุดนี้เริ่มดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสนาม บริเวณห้างบิ๊กซี สาขาอยุธยา มีการดูแลผู้ป่วยเช่นเดียวกับโรงพยาบาล คือ มีแผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และฉุกเฉิน แต่เมื่อตั้งโรงพยาบาลสนามไปได้ 1วัน น้ำขึ้นสูงจึงต้องย้ายไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลภาชี อ.ภาชี เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวต้องรับผู้ป่วยมาจากพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด โดยเฉพาะจากอำเภอนครหลวงที่อยู่ติดกันซึ่งน้ำท่วมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้แต่ละวันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวนมาก
ทีม DMAT จึงได้จัดแบ่งเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลออกเป็น 4 ทีม ทีมแรกช่วยงานอยู่ในโรงพยาบาล อีก 3 ทีม แยกกันไปลงพื้นที่เพื่อให้การรักษาประชาชนได้อย่างทั่วถึงซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่มาหาหมอมีทั้งที่ป่วยทั่วไป ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง โรคหวัด น้ำกัดเท้า ท้องเสีย โรคผิวหนัง และอื่นๆ ซึ่งให้การรักษาผู้ป่วยได้วันละประมาณ 300-400 คน
นายแพทย์วิวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของทีม DMAT ภูเก็ต วันนี้ได้สับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทีมที่ 3 เข้าปฏิบัติงาน และยังต้องประจำที่จุดเดิม คือ โรงพยาบาลพาชีเนื่องจากจุดนี้เป็นจุดที่ต้องดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก โดยชุดที่ 3 นำทีมโดยนายแพทย์สมพงศ์ วันหนุน แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งทีมนี้จะเข้าทำงานร่วมกับทีมจากจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางไปแล้ว คือ ทีมจากจังหวัดตรัง
อย่างไรก็ตามหลังจากทีม DMAT ชุดที่ 3 ครบกำหนดเดินทางกลับการส่งทีมชุดที่ 4 ไปร่วมปฏิบัติงานนั้นจะเด่นในการส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางการสุขภาพจิต และการควบคุมโรคเข้าไปช่วย เพราะถึงเวลานั้นคิดว่าสถานการณ์น้ำน่าจะดีขึ้น โดยเรื่องของสุขภาพจิตถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าไปดูแล เนื่องจากประชาชนที่ถูกน้ำท่วมเป็นเวลานานจะมีอาการเครียด จึงจำเป็นที่จะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เข้าไปดูแล ซึ่งการส่งทีม DMAT ไปช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆจะดีขึ้น
นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการส่งทีมแพทย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หรือ ทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ (DMAT) ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า หลังจากเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลป่าตอง โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ (DMAT) เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ โดยมีการสับเปลี่ยนกำลังแพทย์-พยาบาลเป็นชุดที่ 3 แล้ว
ชุดแรกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2554 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีทีมแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลป่าตอง โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลเอกชน และมูลนิธิกุศลธรรม นำโรงพยาบาลสนาม เวชภัณฑ์ต่างๆเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีอาการเจ็บป่วย สำหรับการเดินทางปฏิบัติหน้าที่ของทีม DMAT ชุดแรกนำโดยนายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่5 -14 ต.ค. 2554
หลังจากนั้นได้มีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 เข้าปฏิบัติงาน โดยชุดนี้มีทีมแพทย์ พยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่กว่า 30 ชีวิต นำโดยนพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการ รพ.ป่าตอง เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ (21 ต.ค.)
การทำงานชุดนี้เริ่มดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสนาม บริเวณห้างบิ๊กซี สาขาอยุธยา มีการดูแลผู้ป่วยเช่นเดียวกับโรงพยาบาล คือ มีแผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และฉุกเฉิน แต่เมื่อตั้งโรงพยาบาลสนามไปได้ 1วัน น้ำขึ้นสูงจึงต้องย้ายไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลภาชี อ.ภาชี เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวต้องรับผู้ป่วยมาจากพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด โดยเฉพาะจากอำเภอนครหลวงที่อยู่ติดกันซึ่งน้ำท่วมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้แต่ละวันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวนมาก
ทีม DMAT จึงได้จัดแบ่งเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลออกเป็น 4 ทีม ทีมแรกช่วยงานอยู่ในโรงพยาบาล อีก 3 ทีม แยกกันไปลงพื้นที่เพื่อให้การรักษาประชาชนได้อย่างทั่วถึงซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่มาหาหมอมีทั้งที่ป่วยทั่วไป ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง โรคหวัด น้ำกัดเท้า ท้องเสีย โรคผิวหนัง และอื่นๆ ซึ่งให้การรักษาผู้ป่วยได้วันละประมาณ 300-400 คน
นายแพทย์วิวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของทีม DMAT ภูเก็ต วันนี้ได้สับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทีมที่ 3 เข้าปฏิบัติงาน และยังต้องประจำที่จุดเดิม คือ โรงพยาบาลพาชีเนื่องจากจุดนี้เป็นจุดที่ต้องดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก โดยชุดที่ 3 นำทีมโดยนายแพทย์สมพงศ์ วันหนุน แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งทีมนี้จะเข้าทำงานร่วมกับทีมจากจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางไปแล้ว คือ ทีมจากจังหวัดตรัง
อย่างไรก็ตามหลังจากทีม DMAT ชุดที่ 3 ครบกำหนดเดินทางกลับการส่งทีมชุดที่ 4 ไปร่วมปฏิบัติงานนั้นจะเด่นในการส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางการสุขภาพจิต และการควบคุมโรคเข้าไปช่วย เพราะถึงเวลานั้นคิดว่าสถานการณ์น้ำน่าจะดีขึ้น โดยเรื่องของสุขภาพจิตถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าไปดูแล เนื่องจากประชาชนที่ถูกน้ำท่วมเป็นเวลานานจะมีอาการเครียด จึงจำเป็นที่จะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เข้าไปดูแล ซึ่งการส่งทีม DMAT ไปช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆจะดีขึ้น
