ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สองผัวเมียร่วมเดินเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จาก จ.ปทุมธานี ถึง จ.ปัตตานี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ภรรยาซึ่งพิการตาบอดทั้งสองข้างมาแต่กำเนิดได้เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยในวันนี้เดินทางถึง อ.จะนะ จ.สงขลา และใกล้ถึงเป้าหมายในอีก 5 วัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ เอี่ยมสะอาด อายุ 45 อยู่บ้านเลขที่ 127 ซอยเพชรเกษม 15 แยก 9 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ และนางสาวลำไย สท้านเสียง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 ม.12 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ภรรยาซึ่งพิการตาบอดทั้งสองข้างมาแต่กำเนิด ได้เดินเทิดพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จาก จ.ปทุมธานี จนถึง จ.ปัตตานี
หลังจากที่ภรรยาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยในวันนี้ (20 ต.ค.) ทั้งสองคนได้เดินทางมาถึง อ.จะนะ จ.สงขลา และกำลังจะเข้าสู่ จ.ปัตตานี ตามป้ายหมายที่ได้ตั้งไว้ในอีก 5 วัน หลังจากที่ใช้เวลาออกเดินทางผ่านมากว่า 68 วัน ทั้งนี้ตลอดเส้นทางทั้งสองคนได้เปิดให้ประชาชนได้ร่วมกันลงนามถวายพระพรทั้งสองพระองค์ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
การเดินทางของนายนิพนธ์ และนางสาวลำไย ไม่ได้มีการเรี่ยไรเงินหรือต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ โดยต้องการทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ด้วยใจที่จงรักภักดีจริง ซึ่งตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมีประชาชนที่ทราบเรื่องราวต่างนำน้ำและอาหารมาช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้เพื่อให้สามารถเดินทางไปถึง จ.ปัตตานี ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
นายนิพนธ์เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง เพื่อขอให้พระองค์ท่านทรงรับ นางลำไย ภรรยา เข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากพิการตาบอดทั้งสองข้าง และมีอาการปวดตาและมีโรคร้ายรุมเร้า เช่น ความดัน เบาหวาน หัวใจ และโรคหอบหืด เนื่องจากตนมีฐานะยากจนไม่มีเงินรักษา เนื่องจากตนมีอาชีพทำหุ่นยนต์ไม้ไอติมออมสิน ซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอน
ส่วนภรรยาเดิมเคยเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงลาออกมาขายน้ำหอมและนวดแผนไทย หลังจากนั้นราวเดือนมิถุนายนได้มีไปรษณียบัตรตอบกลับมาจากสำนักราชเลขาธิการฯ รับเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์และให้เข้าไปพบแพทย์หลวงเพื่อทำการตรวจร่างกายในเบื้องต้น ก่อนที่จะถูกส่งตัวมารับการวินิจฉัยอีกครั้งที่โรงพยาบาลศิริราช และในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ แพทย์จะนัดให้เข้าไปตรวจตาและร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแนวทางการรักษา ซึ่งตนทั้งสองคนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์เป็นล้นพ้น และจะตั้งใจทำความดีถวายพระองค์ท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่