นครศรีธรรมราช - คนร้ายโทร.เรียก 2 ผัวเมียออกมาเจรจา ก่อนกระหน่ำยิง 6 นัดซ้อน ผัวถูกกระสุน 6 นัด ดับคาที่ ขณะที่เมียอาการสาหัส
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.ท.ณัชนนท์ เกิดก่อ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมริมถนนสายทุ่งสง-บางขัน ม.4 ต.นาไม้ไผ่ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สายตรวจตำบล เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นคูน้ำริมถนน พบผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพขาพาดลงไปในคูน้ำ ร่างเกยอยู่ข้างไหล่ทาง เลือดท่วมตัว ทราบชื่อต่อมาคือ นายธวัช ทองแป้น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 ม.6 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อทำการชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .45 (11 มม.) เข้าบริเวณหน้าอก 6 นัด ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้มขาว สภาพใหม่ จอดทิ้งในลักษณะตั้งขาตั้งเรียบร้อย เบื้องต้นพบว่าเป็นรถของผู้ตาย และใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันอีกรวม 7 ปลอก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวบริเวณห่างจากศพ ชาวบ้านในย่านดังกล่าวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ได้ถูกพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งสงเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้บาดเจ็บดังกล่าวคือ น.ส.ชนิดา ไหมสีเขียว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.7 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขาขวา เป็นแผลเหวอะหวะกระดูกสะบั้น อยู่ในอาการสาหัส เนื่องจากเสียเลือดมาก
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นสามีภรรยากัน ก่อนเกิดเหตุทราบว่าขณะที่ทั้งคู่พักผ่อนอยู่ในบ้าน ได้มีโทรศัพท์เข้ามาก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากบ้านไป และมาเกิดเหตุในจุดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบว่าผู้ตายและภรรยาได้มาจอดรถไว้อย่างเรียบร้อย ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยกันครู่หนึ่งก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ นายธวัช ถึง 6 นัดซ้อน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วน น.ส.ชนิดา ถูกยิงเพียง 1 นัด เนื่องจากเข้าใจว่ากระสุนของคนร้ายอาจจะหมดลง เพราะอาวุธปืนชนิดนี้ส่วนใหญ่จะบรรจุได้ไม่เกิน 7 นัด ก่อนที่คนร้ายจะพากันหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่รอให้อาการของ น.ส.ชนิดา พ้นขีดอันตราย และสามารถสอบปากคำได้ จึงจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้
ส่วนสาเหตุนั้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัว หรือขัดผลประโยชน์ในทางธุรกิจบางประการ
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.ท.ณัชนนท์ เกิดก่อ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมริมถนนสายทุ่งสง-บางขัน ม.4 ต.นาไม้ไผ่ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สายตรวจตำบล เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นคูน้ำริมถนน พบผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพขาพาดลงไปในคูน้ำ ร่างเกยอยู่ข้างไหล่ทาง เลือดท่วมตัว ทราบชื่อต่อมาคือ นายธวัช ทองแป้น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 ม.6 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อทำการชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .45 (11 มม.) เข้าบริเวณหน้าอก 6 นัด ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้มขาว สภาพใหม่ จอดทิ้งในลักษณะตั้งขาตั้งเรียบร้อย เบื้องต้นพบว่าเป็นรถของผู้ตาย และใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันอีกรวม 7 ปลอก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวบริเวณห่างจากศพ ชาวบ้านในย่านดังกล่าวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ได้ถูกพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งสงเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้บาดเจ็บดังกล่าวคือ น.ส.ชนิดา ไหมสีเขียว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.7 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณต้นขาขวา เป็นแผลเหวอะหวะกระดูกสะบั้น อยู่ในอาการสาหัส เนื่องจากเสียเลือดมาก
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นสามีภรรยากัน ก่อนเกิดเหตุทราบว่าขณะที่ทั้งคู่พักผ่อนอยู่ในบ้าน ได้มีโทรศัพท์เข้ามาก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากบ้านไป และมาเกิดเหตุในจุดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบว่าผู้ตายและภรรยาได้มาจอดรถไว้อย่างเรียบร้อย ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยกันครู่หนึ่งก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ นายธวัช ถึง 6 นัดซ้อน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วน น.ส.ชนิดา ถูกยิงเพียง 1 นัด เนื่องจากเข้าใจว่ากระสุนของคนร้ายอาจจะหมดลง เพราะอาวุธปืนชนิดนี้ส่วนใหญ่จะบรรจุได้ไม่เกิน 7 นัด ก่อนที่คนร้ายจะพากันหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่รอให้อาการของ น.ส.ชนิดา พ้นขีดอันตราย และสามารถสอบปากคำได้ จึงจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้
ส่วนสาเหตุนั้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัว หรือขัดผลประโยชน์ในทางธุรกิจบางประการ