ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จังหวัดสงขลาจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ เพื่อปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ เป็นน้ำสรงถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ
วันที่ 14 ต.ค. 54 ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ ก่อนนำน้ำเสกน้ำพระพุทธมนต์ ในวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน ณ อารามหลวง วัดชัยมงคล อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อเป็นน้ำสรงถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย กำหนดให้ทุกจังหวัดสำรวจและดำเนินการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่สำคัญ ประชาชนเคารพเลื่อมใส เพื่อนำไปประกอบพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นน้ำสรงถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 นั้น จังหวัดสงขลาได้กำหนดจัดพิธี ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ตั้งห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเล่ากันว่าผู้สร้างบ่อน้ำนี้คือพระรูปหนึ่งชื่อ พระสินนารายณ์ และฆราวาสชื่อ ขุนวิชัยพรหมศานส์ ซึ่งเดินทางจากประเทศอินเดียสู่กรุงศรีอยุธยา
ทั้งนี้ สมัยก่อนชาวบ้าน เรียกว่า บ่อทอง เนื่องจากมีผู้เฒ่าหลายท่านเล่าสืบต่อกันมาว่าในบ่อลูกนี้มีทองแม่ขัน โดยเจ้าของทองนั้นได้เข้าฝันชาวบ้านว่าถ้าใครได้ทอง เมื่อวันคี่คืนดี ก็ให้ไปเอาได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่อผู้ใดได้ทองไปแล้วจะต้องรับแผลเปื่อยเท่ากับหอยไปจนตาย ปรากฏว่าไม่มีใครกล้าเพราะกลัวจะทรมานไปจนตลอดชีวิต ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านเรียกว่า บ่อทอง หรือ บ่อทรัพย์ มาโดยตลอด
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีน้ำสะอาด ใสตลอดปี ในวันนี้จังหวัดสงขลา จึงได้จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำขึ้น เพื่อนำน้ำพระพุทธมนต์ส่งต่อให้กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รวบรวมน้ำพระพุทธมนต์ทุกจังหวัด จากนั้นกระทรวงมหาดไทยจะแห่เชิญน้ำพระพุทธมนต์ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประกอบรัฐพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และนำทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในพระราชพิธีเสด็จออกสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ในลำดับต่อไป