ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อบจ.สงขลา เปิด 3 ศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วม “ลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา” อันตราย คาดปีนี้ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 1,000 มิลลิเมตร
วันนี้ (10 ต.ค.) นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า พื้นที่น้ำท่วมอยู่ในขั้นวิกฤตทุกๆ ปี และที่ต้องเฝ้าระวังมี 3 แห่งคือ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่า ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะมีค่าเฉลี่ย 1,000 มิลลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2553 อบจ.ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 ศูนย์ที่ อ.หาดใหญ่ นาทวี และ อ.สทิงพระ โดยมี อบจ.เป็นศูนย์กลางให้การสนับสนุนเมื่อเกิดปัญหาเหลือกำลังของศูนย์หน้า แต่ละศูนย์มีพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน มีเครื่องจักรกล เรือท้องแบน อาหารแห้ง บุคลากรพร้อม
นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล (ทต.) นาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำเทพา-นาทวี เป็นพื้นที่หนึ่งที่รองรับน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นเทือกเขากั้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรวงกว้าง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีหนึ่งๆ ไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาท เนื่องจากสายน้ำสายหลักคลองเทพา คลองนาทวี ที่ระบายน้ำออกทะเลอ่าวไทยตื้นเขินแล้ว ยังมีสิ่งกีดขวางทางน้ำเกือบตลอดสาย ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มสูง 2 เมตรโดยเฉลี่ย
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประมาณ 20 แห่ง ได้วางแผนร่วมกับชลประทานแก้ปัญหาน้ำท่วม โครงการเฉพาะหน้าขุดลอกคูคลองที่มีอยู่ธรรมชาติ ในระยะยาวมีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ทั้งระบบคาดว่าใช่งบประมาณ 500-700 ล้านบาท”
วันนี้ (10 ต.ค.) นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า พื้นที่น้ำท่วมอยู่ในขั้นวิกฤตทุกๆ ปี และที่ต้องเฝ้าระวังมี 3 แห่งคือ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่า ปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะมีค่าเฉลี่ย 1,000 มิลลิเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2553 อบจ.ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 ศูนย์ที่ อ.หาดใหญ่ นาทวี และ อ.สทิงพระ โดยมี อบจ.เป็นศูนย์กลางให้การสนับสนุนเมื่อเกิดปัญหาเหลือกำลังของศูนย์หน้า แต่ละศูนย์มีพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน มีเครื่องจักรกล เรือท้องแบน อาหารแห้ง บุคลากรพร้อม
นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล (ทต.) นาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า ลุ่มน้ำเทพา-นาทวี เป็นพื้นที่หนึ่งที่รองรับน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นเทือกเขากั้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรวงกว้าง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีหนึ่งๆ ไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาท เนื่องจากสายน้ำสายหลักคลองเทพา คลองนาทวี ที่ระบายน้ำออกทะเลอ่าวไทยตื้นเขินแล้ว ยังมีสิ่งกีดขวางทางน้ำเกือบตลอดสาย ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มสูง 2 เมตรโดยเฉลี่ย
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประมาณ 20 แห่ง ได้วางแผนร่วมกับชลประทานแก้ปัญหาน้ำท่วม โครงการเฉพาะหน้าขุดลอกคูคลองที่มีอยู่ธรรมชาติ ในระยะยาวมีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ทั้งระบบคาดว่าใช่งบประมาณ 500-700 ล้านบาท”