นราธิวาส - นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก เผย ประชาชนในพื้นที่รอการลงมาตรวจเยี่ยมและรับฟังสภาพปัญหาของเมืองสุไหงโก-ลกของนายกรัฐมนตรี หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก
วันนี้ (30 ก.ย.) นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เฝ้ารอการลงพื้นที่ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในมาตรการดังกล่าวในเขตเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เมืองชายแดนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหวังว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่
โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่จะนำมาติดตั้งในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งประชาชนมีความต้องการเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้มีการสนับสนุนงบประมาณเข้ามาดำเนินการโดยให้องค์กรปกครองท้องถิ่นรับผิดชอบการติดตั้งดูแลและซ่อมบำรุง เนื่องจากรู้ถึงปัญหาและสภาพความเสี่ยงของพื้นที่เป็นอย่างดี โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะดูแล อ.สุไหงโก-ลก เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆของประเทศอย่างเท่าเทียม
ส่วนในระดับพื้นที่ประชาชนมีความตื่นตัวกับการมีส่วนร่วมในการในรักษาความปลอดภัยพื้นที่มากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการในเขต SAFETY ZONE หรือเขตห้ามจอดรถตั้งแต่บริเวณสี่แยกโรงแรมเมอลินจนถึงโรงแรมปาร์คสันก็เห็นด้วยที่จะจัดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดภัยโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขีดเส้นขาวแดง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จรถทุกคันที่เข้าไปในเขต SAFETY ZONE ก็จะต้องนำรถเข้าไปจอดที่บริเวณศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้อย่างเข้มงวด
วันนี้ (30 ก.ย.) นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เฝ้ารอการลงพื้นที่ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นในมาตรการดังกล่าวในเขตเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เมืองชายแดนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหวังว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่
โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่จะนำมาติดตั้งในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งประชาชนมีความต้องการเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้มีการสนับสนุนงบประมาณเข้ามาดำเนินการโดยให้องค์กรปกครองท้องถิ่นรับผิดชอบการติดตั้งดูแลและซ่อมบำรุง เนื่องจากรู้ถึงปัญหาและสภาพความเสี่ยงของพื้นที่เป็นอย่างดี โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะดูแล อ.สุไหงโก-ลก เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆของประเทศอย่างเท่าเทียม
ส่วนในระดับพื้นที่ประชาชนมีความตื่นตัวกับการมีส่วนร่วมในการในรักษาความปลอดภัยพื้นที่มากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการในเขต SAFETY ZONE หรือเขตห้ามจอดรถตั้งแต่บริเวณสี่แยกโรงแรมเมอลินจนถึงโรงแรมปาร์คสันก็เห็นด้วยที่จะจัดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดภัยโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขีดเส้นขาวแดง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จรถทุกคันที่เข้าไปในเขต SAFETY ZONE ก็จะต้องนำรถเข้าไปจอดที่บริเวณศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้อย่างเข้มงวด
