นราธิวาส - ทหารสอบเครียด 2 ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดทหารในโรงเรียน ว่า มีส่วนพัวพันระเบิดโก-ลก 3 จุดหรือไม่ ส่วนเหยื่อระเบิดโก-ลก ตายเพิ่มอีก 1 เป็นนักข่าวรายที่ 6
ที่กองบังคับการทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พ.ท.สฐิพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 ได้เบิกตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขอสงวนชื่อและนามสกุล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ม.2 บ้านบราเฮง และ ม.3 บ้านซีโป ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขณะขับและนั่งรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีท่าทางพิรุธผ่านหน้าโรงเรียน ขณะที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่อาคารเรียนของชั้น ป.5 ที่ทางโรงเรียนได้เลิกใช้งานแล้ว และปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับให้เจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.15122 ฉก.นราธิวาส 38 ที่ทำหน้าที่ รปภ.โรงเรียนและครูใช้สำหรับพักผ่อน จนทำให้ส.อ.อภิสิทธิ์ ศรีอนุรักษ์ หน.ชุดได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ย.54 ที่ผ่านมา
การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายประการที่ทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกัน ประการสำคัญเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากแหล่งข่าวในทางลับว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนแจ้งให้บุคคลภายนอกได้ทราบว่า ให้ทำการจุดชนวนระเบิดได้เลย เพราะขณะนั้น ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุดเดินผ่านจุดที่วางระเบิดพอดี เพราะคนที่จุดชนวนระเบิดซึ่งอยู่นอกบริเวณรั้วโรงเรียนไม่สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวได้ หากไม่มีคนซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนโทร.บอก หรืออีกประเด็นหนึ่งคือ คนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเพื่อสังหาร ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุด เป็นคนที่อยู่ภายในรั้วโรงเรียนเท่านั้น เพราะมองเห็นความเคลื่อนไหวของ ส.อ.อภิสิทธิ์ ได้เด่นชัด
ทั้ง 2 ประเด็นเป็นแนวทางในการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า คนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเป็นใคร อยู่ในโรงเรียน หรือโทรศัพท์บอกให้คนที่อยู่นอกโรงเรียนโทรศัพท์จุดชนวน ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ที่สวนสอบในครั้งนี้ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารจะทำการเรียกตัวครูและบุคลากรทางการศึกษารวมถึงลูกจ้าง ของโรงเรียนประชาบำรุง ทยอยเดินทางมาให้ปากคำต่อไป แต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะสอบสวนขยายผลไปถึงเหตุคนร้ายวางระเบิด 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ว่า มีส่วนพัวพันหรือเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไรในครั้งนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลกนั้น ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 คน ที่ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา คือ นายภมร ภรณ์พานิช อายุ 61 ปี หรือใหญ่ท่าธง ซึ่งอดีตเป็นผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ประจำ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สื่อสมุทรอาชญากรรม ซึ่งเสียชีวิตจากถูกไฟคลอกระเบิดคาร์บอมบ์ลูกที่ 3 ที่บริเวณหน้าร้านเซียนป่อง ขณะเดินทางไปทำข่าว โดยทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่วัดโคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส
ส่วนทางด้านคดีนั้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไป 1 คนแล้ว คือ นายสูไฮดี กูบารู ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1-2 คนในเร็ววันนี้
ที่กองบังคับการทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พ.ท.สฐิพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 ได้เบิกตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขอสงวนชื่อและนามสกุล ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ม.2 บ้านบราเฮง และ ม.3 บ้านซีโป ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ขณะขับและนั่งรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีท่าทางพิรุธผ่านหน้าโรงเรียน ขณะที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่อาคารเรียนของชั้น ป.5 ที่ทางโรงเรียนได้เลิกใช้งานแล้ว และปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับให้เจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.15122 ฉก.นราธิวาส 38 ที่ทำหน้าที่ รปภ.โรงเรียนและครูใช้สำหรับพักผ่อน จนทำให้ส.อ.อภิสิทธิ์ ศรีอนุรักษ์ หน.ชุดได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ย.54 ที่ผ่านมา
การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายประการที่ทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกัน ประการสำคัญเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากแหล่งข่าวในทางลับว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนแจ้งให้บุคคลภายนอกได้ทราบว่า ให้ทำการจุดชนวนระเบิดได้เลย เพราะขณะนั้น ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุดเดินผ่านจุดที่วางระเบิดพอดี เพราะคนที่จุดชนวนระเบิดซึ่งอยู่นอกบริเวณรั้วโรงเรียนไม่สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวได้ หากไม่มีคนซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนโทร.บอก หรืออีกประเด็นหนึ่งคือ คนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเพื่อสังหาร ส.อ.อภิสิทธิ์ หน.ชุด เป็นคนที่อยู่ภายในรั้วโรงเรียนเท่านั้น เพราะมองเห็นความเคลื่อนไหวของ ส.อ.อภิสิทธิ์ ได้เด่นชัด
ทั้ง 2 ประเด็นเป็นแนวทางในการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า คนร้ายที่จุดชนวนระเบิดเป็นใคร อยู่ในโรงเรียน หรือโทรศัพท์บอกให้คนที่อยู่นอกโรงเรียนโทรศัพท์จุดชนวน ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ที่สวนสอบในครั้งนี้ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารจะทำการเรียกตัวครูและบุคลากรทางการศึกษารวมถึงลูกจ้าง ของโรงเรียนประชาบำรุง ทยอยเดินทางมาให้ปากคำต่อไป แต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะสอบสวนขยายผลไปถึงเหตุคนร้ายวางระเบิด 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย.54 ที่ผ่านมา ว่า มีส่วนพัวพันหรือเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไรในครั้งนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ 3 จุด ที่ อ.สุไหงโก-ลกนั้น ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 คน ที่ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา คือ นายภมร ภรณ์พานิช อายุ 61 ปี หรือใหญ่ท่าธง ซึ่งอดีตเป็นผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ประจำ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปัจจุบันเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สื่อสมุทรอาชญากรรม ซึ่งเสียชีวิตจากถูกไฟคลอกระเบิดคาร์บอมบ์ลูกที่ 3 ที่บริเวณหน้าร้านเซียนป่อง ขณะเดินทางไปทำข่าว โดยทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่วัดโคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส
ส่วนทางด้านคดีนั้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไป 1 คนแล้ว คือ นายสูไฮดี กูบารู ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1-2 คนในเร็ววันนี้