ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านใน 3 อำเภอของเมืองปัตตานีกว่า 500 คนร่วมกับนักศึกษา มอ.ปัตตานี เดินขบวนและชูป้ายประท้วงการดำเนินงานของภาครัฐต่อคดีจับกุมชาวประมงพื้นบ้านในข้อหาลักทรัพย์หอยแครง พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทบทวนมาตรการและเอาผิดทางวินัยต่อตำรวจบางนายที่ข่มขู่ให้ผู้ต้องหารับสารภาพในชั้นสอบสวน
วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ลานศิลปวัฒนธรรม อ.เมือง จ.ปัตตานี ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอยะหริ่ง และอำเภอหนองจิก กว่า 500 คนได้ร่วมกับเครือข่ายองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกันถือป้ายเดินประท้วงการทำหน้าที่ของรัฐที่จับกุมชาวบ้านซึ่งประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน 3 ราย เมื่อวันที่ 23 ก.ค.54 ที่ผ่านมา ในกรณีที่เข้าไปหาหอยแครงในพื้นที่อ่าวปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจจึงได้เรียกร้องขอความเป็นธรรม พร้อมทั้งยังได้ยื่นหนังสือแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม ดังนี้
1.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ชี้แจงความคืบหน้าของคดี รวมทั้งชี้แจงว่าจะมีการแจ้งความเอาผิดต่อชาวบ้านคนอื่นอีกหรือไม่ 2.ต้องการให้พนักงานสอบสวนทบทวนการแจ้งความหรือข้อกล่าวหาโดยไม่มีเหตุที่น่าเชื่อถือได้ เพราะที่ผ่านมาเป็นการกล่าวหาของฝ่ายนายทุนฝ่ายเดียว 3.ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง และเอาผิดทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับทำคดีเอาผิดต่อชาวประมงพื้นบ้าน เพราะมีการกระทำส่อทุจริตตั่งแต่ต้น เนื่องจาการดำเนินคดีมีการข่มขู่ชาวบ้านให้มีการยอมรับผิด
ทั้งนี้ หากไม่มีการชี้แจงจากทางรัฐก็จะมีการรวมตัวประท้วงต่อไป และจะมีผู้ร่วมประท้วงเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าจะมีถึง 5,000 คน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากนายทุน หรือผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครง ได้มีการจับจองพื้นที่ในอ่าวปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยกินพื้นที่ใน 3 อำเภอดังกล่าวและไม่ยินยอมให้ชาวประมงพื้นบ้านเข้ามาทำประมงในพื้นที่ดังกล่าว เป็นเหตุให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ปูยาตายายได้ทำมาหากินมาตลอด ทำให้ชาวบ้านบางรายแอบเข้าไปจับหอยในพื้นที่ดังกล่าวที่นายทุนประกาศเป็นเขตหวงห้าม และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดี
พร้อมทั้งมีข้อมูลจากชาวประมงพื้นบ้านที่ถูกจับกุมว่าในเจ้าหน้าที่บางรายมีการข่มขู่ให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมากจึงได้รวมตัวกันประท้วงดังกล่าว