ยะลา - ผู้การเมืองยะลา สั่งให้ทุก สภ.จัดกำลังดูแลความปลอดภัยผู้มาประกอบศาสนกิจทุกในวันศุกร์ หวั่นเกิดเหตุยิงซ้ำ ส่วนความคืบหน้าคดีพบคนร้ายใช้ปืนชนิดลูกโม่ขนาด.38 นำไปตรวจสอบเปรียบเทียบการก่อเหตุ คาดว่าจะรู้ตัวเร็วนี้
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายปะปนและร่วมละหมาดสบโอกาสประกบยิง ดาบตำรวจอารง มาลายา อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู อ.รามัน ช่วยราชการ งานสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายมาหะมะ ยามา อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ อส. อ.กาบัง เสียชีวิตขณะกำลังละหมาดวันศุกร์ในมัสยิดบ้านอายนุรยากีน หมู่ 2 บ้านบือแนยือระ ต.บุดี อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
วันนี้ (17 ก.ย.) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำหัวกระสุนที่พบในตัวของผู้ตาย จำนวน 1 หัว ทราบว่าเป็นหัวกระสุนปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ไปตรวจสอบว่าคนร้ายเคยนำไปก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อจะสาวถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในพื้นที่ อ.เมืองยะลา มีกลุ่มคนร้าย ที่ทำการเคลื่อนไหวและมักจะก่อเหตุอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เชื่อว่าจะสามารถออกหมายจับได้ในเร็วนี้
สำหรับดาบตำรวจอารงที่เสียชีวิตนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานการทำงานด้านสืบสวนสอบสวนดีมาตลอด ทำให้ผู้บังคับบัญชาให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศชต. นอกจากนี้ผู้ตายยังมีความเคร่งครัดในเรื่องของการปฏิบัติศาสนกิจอีกด้วย
ผู้บังคับการตำรวจภูธรยะลา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้มีความระมัดระวัง อย่าประมาทกับสถานการณ์มาโดยตลอด หลังจากนี้ไปตนได้กำชับให้หัวหน้าสถานี ทุกสถานีได้ให้ความสำคัญในการสั่งการให้มีการจัดกำลังออกไปให้คุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกไปร่วมประกอบศาสนกิจที่มัสยิดในวันศุกร์อย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่
พร้อมกับได้ดูแลความปลอดภัยในภาพรวมให้กับ ข้าราชการอื่นๆและประชาชนที่มาประกอบศาสนกิจอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนการก่อเหตุในเขตมัสยิดนั้น จากการที่ตนได้สอบถามผู้รู้ทางศาสนาอิสลามทราบว่า เขตมัสยิดเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ปลอดจากอาวุธปืน ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุในมัสยิดถือว่าเป็นผู้ที่อยู่นอกศาสนามีความบาปที่สุดด้วย
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายปะปนและร่วมละหมาดสบโอกาสประกบยิง ดาบตำรวจอารง มาลายา อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู อ.รามัน ช่วยราชการ งานสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายมาหะมะ ยามา อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ อส. อ.กาบัง เสียชีวิตขณะกำลังละหมาดวันศุกร์ในมัสยิดบ้านอายนุรยากีน หมู่ 2 บ้านบือแนยือระ ต.บุดี อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
วันนี้ (17 ก.ย.) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำหัวกระสุนที่พบในตัวของผู้ตาย จำนวน 1 หัว ทราบว่าเป็นหัวกระสุนปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ไปตรวจสอบว่าคนร้ายเคยนำไปก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อจะสาวถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในพื้นที่ อ.เมืองยะลา มีกลุ่มคนร้าย ที่ทำการเคลื่อนไหวและมักจะก่อเหตุอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เชื่อว่าจะสามารถออกหมายจับได้ในเร็วนี้
สำหรับดาบตำรวจอารงที่เสียชีวิตนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานการทำงานด้านสืบสวนสอบสวนดีมาตลอด ทำให้ผู้บังคับบัญชาให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศชต. นอกจากนี้ผู้ตายยังมีความเคร่งครัดในเรื่องของการปฏิบัติศาสนกิจอีกด้วย
ผู้บังคับการตำรวจภูธรยะลา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้มีความระมัดระวัง อย่าประมาทกับสถานการณ์มาโดยตลอด หลังจากนี้ไปตนได้กำชับให้หัวหน้าสถานี ทุกสถานีได้ให้ความสำคัญในการสั่งการให้มีการจัดกำลังออกไปให้คุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกไปร่วมประกอบศาสนกิจที่มัสยิดในวันศุกร์อย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่
พร้อมกับได้ดูแลความปลอดภัยในภาพรวมให้กับ ข้าราชการอื่นๆและประชาชนที่มาประกอบศาสนกิจอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนการก่อเหตุในเขตมัสยิดนั้น จากการที่ตนได้สอบถามผู้รู้ทางศาสนาอิสลามทราบว่า เขตมัสยิดเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ปลอดจากอาวุธปืน ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุในมัสยิดถือว่าเป็นผู้ที่อยู่นอกศาสนามีความบาปที่สุดด้วย
