ยะลา - อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา จัดงาน “วันไม้กวาดดอกหญ้า จำปาดะกาบัง” เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกจำปาดะ พร้อมผลักดันให้เป็นเทศกาลประจำปีของอำเภอ ลดช่องว่างระหว่างไทยพุทธ-ไทยมุสลิม และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาครัฐ
นายบุญเติม ทองเลื่อน นายอำเภอกาบัง เปิดเผยว่า การจัดงาน “วันไม้กวาดดอกหญ้า จำปาดะกาบัง” ในครั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพไม้ผลจำปาดะให้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป และกระตุ้นส่งเสริมให้จำปาดะเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรนิยม นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้จำปาดะกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐและประชาชน ลดความหวาดระแวงและสร้างความสมานฉันท์ระหว่างพี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิมด้วย ทั้งยังเตรียมผลักดันให้งาน “วันไม้กวาดดอกหญ้า จำปาดะกาบัง” นี้ เป็นเทศกาลงานประจำปีของอำเภอ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับงานรื่นเริง สนุกสนาน และจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรอีกช่องทางหนึ่ง
โดยภายในงานมีกิจกรรมการประกวดผลไม้และพืชท้องถิ่นต่างๆ อาทิ การประกวดมะพร้าว การประกวดจำปาดะ การประกวดสะตอ การประกวดกล้วยหิน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการประกวดไม้กวาดดอกหญ้า การประกวดทำอาหารพื้นบ้าน ข้าวยำ นาซิดาแฆ การประกวดการแปรรูปจำปาดะ ทุเรียนกวน การจัดจำหน่ายสินค้า OTOP สาธิตและจำหน่ายชาชักของดีอำเภอกาบัง และการแสดงบนเวทีของนักเรียนในพื้นที่อำเภอกาบัง ทั้ง 9 โรง ด้วย
นางหาลีปะ แขวงบู ผู้ชนะการประกวดจำปาดะ ประเภทไม่มีเมล็ด อันดับที่ 1 กล่าวว่า ตนรู้ดีใจที่ผลผลิตทางการเกษตรที่ส่งเข้าประกวดได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลอันดับที่ 1 ซึ่ง ตนได้ปลูกจำปาดะ เป็นไม้ผลเสริมหลังบ้าน จำนวนไม่มากนัก แต่ได้พยายามดูแลเป็นอย่างดี ทำให้ผลที่ออกมามีขนาดโต และมีรสชาติหอมวาน จึงมีแนวคิดว่าจะขยายพื้นที่การปลูกจำปาดะ ให้มากกว่านี้ เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการสวนยางพาราและสวนลองกอง ประกอบกับปัจจุบัน ทางสำนักงานเกษตรอำเภอกาบัง ได้จัดทำแปลงสาธิต การปลูกจำปาดะไม่มีเมล็ด เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรที่สนใจ ในพื้นที่ 5 ไร่ บริเวณหลังที่ว่าการอำเภอกาบัง ทำให้ตนเองและสามีสามารถไปศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์จำปาดะให้มีคุณภาพดีกว่าที่มีอยู่ด้วย
ทั้งนี้ อำเภอกาบัง เป็นพื้นที่มีอาณาเขตติดต่อกับรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ห่างชายแดนประมาณ 15 กม.ในอดีตเคยมีการผลักดันให้เปิดเส้นทางเชื่อมกันระหว่าง อ.กาบัง กับรัฐเคดาห์ แต่ต่อมาโครงการดังกล่าวได้หยุดชะงักลง ซึ่งหากรัฐบาลมีการศึกษาความเป็นไปได้ ตัดถนนเชื่อมต่อกันและเปิดด่านให้ประชาชนสามารถเดินทางไปมาสู่กันได้ จะทำให้การเดินทางระหว่าง จ.ยะลา กับเมืองอะลอสตาร์ รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย สะดวกยิ่งขึ้น โดยมีระยะทางเพียงแค่ 100 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากนี้ อำเภอกาบัง ยังจะกลายเป็นเส้นทางการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรจำพวกไม้ผลสู่กลุ่มประเทศอาเซียน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ จ.ยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในแต่ละปีหลายหมื่นล้านบาทด้วย