ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต คุยใช้ยางรถยนต์ทำเกาะกลางเทียมแก้ปัญหาจราจรประสบความสำเร็จ ลดจำนวนผู้เสียชีวิต อุบัติเหตุทางถนนได้เกือบ 100%
พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการใช้ยางรถยนต์ทำเป็นเกาะกลางถนนเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังไม่มีงบประมาณในการสร้างเกาะกลางถนน ว่า ปัญหาอุบัติเหตุจราจรถือเป็นปัญหาที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีมีผู้ประสบอุบัติเหตุจราจรจำนวนมาก และนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละวันจำนวนไม่น้อย
ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระในการรักษาพยาบาล การเลี้ยงดูผู้ที่ทุพพลภาพ จากอุบัติเหตุจำนวนมาก และเมื่อเปรียบเทียบการเกิดอุบัติเหตุในระดับประเทศจะ พบว่าจังหวัดภูเก็ตมีอุบัติเหตุและการตายจากอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศถึง 4 เท่า
สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมีหลายอย่างทั้งเรื่องของพฤติกรรมการขับรถ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเรื่องของวิศวกรรมจราจร โดยเฉพาะบริเวณทางโค้งต่างๆ และเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของวิศวกรรมจราจร ทางสถานีตำรวจภูธรฉลองจึงได้จัดทำโครงการสร้างเกาะกลางเทียมขึ้น ซึ่งดำเนินการมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยนำยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาประยุกต์ใช้สำหรับเป็นที่บอกเครื่องหมายทางการจราจร บริเวณเกาะกลางถนน ด้วยการนำยางรถยนต์ 3 ล้อ มาวางติดกันและใช้เชือกผูกจากนั้นก็นำมาทาสีขาว-สีแดง เพื่อให้เกิดแสงสะท้อนในช่วงเวลากลางคืน และนำไปวางบริเวณทางโค้งที่มีการสำรวจว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
เช่น โค้งหน้าโรงเรียนบ้านฉลอง-หน้าวัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) สามแยกปากทางเข้าซอยโคกโตนด ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก และโค้งสะตอ ถนนปฎัก ต.กะรน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ชะลอความเร็ว ซึ่งเมื่อมีการวางยางรถยนต์ไว้บริเวณเส้นเหลืองกลางแทนเกาะกลาง ทำให้รถชะลอความเร็วและลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
พ.ต.อ.กฤตภาส กล่าวต่อว่า จากการดำเนินการมา 2 เดือนพบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจสามารถลดอัตราการเสียชีวิต บาดเจ็บ และลดจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุไปได้จำนวนมาก ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วลดลงเกือบ 100% ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุบัติเหตุลดลง คือ เรื่องของเกาะกลางเทียมเนื่องจากทำให้ประชาชนที่ขับรถมีความระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งมีการชะลอความเร็วลง เมื่อคนขับรถช้าลงอุบัติเหตุก็เกิดน้อยลง
พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการใช้ยางรถยนต์ทำเป็นเกาะกลางถนนเทียม เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังไม่มีงบประมาณในการสร้างเกาะกลางถนน ว่า ปัญหาอุบัติเหตุจราจรถือเป็นปัญหาที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีมีผู้ประสบอุบัติเหตุจราจรจำนวนมาก และนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละวันจำนวนไม่น้อย
ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระในการรักษาพยาบาล การเลี้ยงดูผู้ที่ทุพพลภาพ จากอุบัติเหตุจำนวนมาก และเมื่อเปรียบเทียบการเกิดอุบัติเหตุในระดับประเทศจะ พบว่าจังหวัดภูเก็ตมีอุบัติเหตุและการตายจากอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศถึง 4 เท่า
สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมีหลายอย่างทั้งเรื่องของพฤติกรรมการขับรถ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเรื่องของวิศวกรรมจราจร โดยเฉพาะบริเวณทางโค้งต่างๆ และเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของวิศวกรรมจราจร ทางสถานีตำรวจภูธรฉลองจึงได้จัดทำโครงการสร้างเกาะกลางเทียมขึ้น ซึ่งดำเนินการมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยนำยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาประยุกต์ใช้สำหรับเป็นที่บอกเครื่องหมายทางการจราจร บริเวณเกาะกลางถนน ด้วยการนำยางรถยนต์ 3 ล้อ มาวางติดกันและใช้เชือกผูกจากนั้นก็นำมาทาสีขาว-สีแดง เพื่อให้เกิดแสงสะท้อนในช่วงเวลากลางคืน และนำไปวางบริเวณทางโค้งที่มีการสำรวจว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
เช่น โค้งหน้าโรงเรียนบ้านฉลอง-หน้าวัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) สามแยกปากทางเข้าซอยโคกโตนด ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก และโค้งสะตอ ถนนปฎัก ต.กะรน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ชะลอความเร็ว ซึ่งเมื่อมีการวางยางรถยนต์ไว้บริเวณเส้นเหลืองกลางแทนเกาะกลาง ทำให้รถชะลอความเร็วและลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
พ.ต.อ.กฤตภาส กล่าวต่อว่า จากการดำเนินการมา 2 เดือนพบว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจสามารถลดอัตราการเสียชีวิต บาดเจ็บ และลดจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุไปได้จำนวนมาก ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วลดลงเกือบ 100% ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุบัติเหตุลดลง คือ เรื่องของเกาะกลางเทียมเนื่องจากทำให้ประชาชนที่ขับรถมีความระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งมีการชะลอความเร็วลง เมื่อคนขับรถช้าลงอุบัติเหตุก็เกิดน้อยลง