ยะลา - รองผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ บินตรวจเหตุจลาจลเรือนจำปัตตานี และเหตุคนร้ายทำลายกล้อง CCTV ในพื้นที่ จ.ปัตตานี
เวลา 11.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในฐานะโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พ.ท.สัมพันธ์ อิสริยเตชะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อไปตรวจดูเหตุการณ์ป่วนในพื้นที่ 2 จุด
โดยจุดแรกที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เส้นทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-ปัตตานี เหตุกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งร่วมกันทำลายทรัพย์สินทางราชการ กล้อง CCTV จำนวน 48 ตัว พร้อมทั้งโปรยตะปูเรือใบ ต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ส่วนจุดที่สองผู้ต้องขังภายในเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี ประมาณ 40-50 คนก่อเหตุจลาจลรุมทำร้ายนักโทษด้วยกัน ซึ่งเป็นนักโทษชั้นดีที่เจ้าหน้าที่เรือนจำได้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ 5 คน จนต้องวิ่งหนีกระเจิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย จนกระทั่งเสียชีวิต 2 รายส่วนอีกรายบาดเจ็บสาหัส
นายทหารระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ให้ข้อมูลว่า สำหรับเหตุกลุ่มแนวร่วม RKK ได้สร้างสถานการณ์ป่วนในพื้นที่ อ.ยะรัง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น เป็นเยาวชนที่หลงผิด ที่ถูกยุยงปลุกปั่น มีการวางตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ขวางถนน ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-ปัตตานี
พร้อมทั้งได้ทำลายทรัพย์สินของทางราชการทุบทำลาย กล้อง CCTV จำนวน 48 ตัว ซึ่งกล้องวงจรปิดเหล่านี้ ได้ติดตั้งไว้เพื่อสอดส่องดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ และสังเกตพฤติกรรมและสิ่งผิดปกติของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ยามวิกาล ซึ่งการทำลายกล้อง CCTV ผู้ที่เดือดร้อน ก็คือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ การขอความร่วมมือจากผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานของตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเยาวชนที่อาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ที่ไม่หวังดี ที่พยายามต่อต้านกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากเหตุในพื้นที่ อ.ยะรัง เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มเยาวชนที่ถูกปลุกระดม พยายามที่จะต่อต้าน และตอบโต้ การทำงานของฝ่ายรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานมวลชนอย่างได้ผล มีการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกำนันผู้ใหญ่บ้าน
พร้อมทั้งทำ MOU ร่วมกันระหว่างหมู่บ้านที่เกิดเหตุความไม่สงบบ่อยครั้งกับจังหวัดปัตตานี ว่าถ้าเกิดเหตุในพื้นที่ใด กำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องไปเชิญตัวผู้ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านในหมู่บ้านใด หรือแม้แต่เยาวชน โดยนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ แต่เมื่อมีการปลุกระดมเด็กเยาวชน เพื่อต่อต้าน และตอบโต้ ทำลายทรัพย์สินทางราชการให้ได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่รัฐเองก็มีความพยายามที่จะกำจัดความไม่ดีที่อยู่ในตัวเด็กๆ และเยาวชนออกไป โดยนำเยาวชนมาเข้าร่วมโครงการของทางกองทัพภาค 4 ทั้งโครงการต่อต้านยาเสพติด ญาลันนันบารู โครงการสานใจสู่สันติ เป็นต้น เพื่อเป็นการดึงเยาวชนออกมาจากสิ่งที่ไม่ดี ให้เยาวชนได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ในด้านที่ถูกต้อง
ส่วนอีกเหตุการณ์ที่เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นการจัดระเบียบภายในเรือนจำ ในด้านการให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องขัง ไม่ให้มีการค้าขายยาเสพติดและสิ่งของที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่พยายามเร่งทำความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ด้วยความไม่เข้าใจของผู้ต้องขังบางกลุ่ม หรืออาจมีหัวโจก พยายามที่จะต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ต้องขังที่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก็ยังคงปฏิบัติตามปกติ จึงมีความมั่นใจว่า สถานการณ์ต่างๆ กำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และสังคมถูกจัดระเบียบมากขึ้น เพื่อที่จะกลายจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ และอบอุ่นมากยิ่งขึ้น