xs
xsm
sm
md
lg

ชาวตรังแห่ปลูกไม้เศรษฐกิจจนเพาะชำกล้าแจกไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายยงยศ หยงสตาร์ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง
ตรัง - กระแสอนุรักษ์แรงและตลาดต้องการสูง ชาวตรังตื่นตัวแห่ปลูกไม้เศรษฐกิจมากขึ้น จนสถานีเพาะชำกล้าไม้ผลิตแจกให้ไม่ทัน เผยติดขัดด้านงบประมาณและระยะเวลาในการเพาะชำ

นายยงยศ หยงสตาร์ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช กรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนชาวตรังมีความสนใจปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามกระแสของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความต้องการไม้ในท้องตลาดก็มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถานีจึงต้องพยายามเร่งผลิตกล้าไม้ให้เพียงพอต่อความต้องการ แต่เนื่องจากข้อจำกัดในส่วนของงบประมาณ และเป็นการดำเนินการขึ้นเพื่อแจกฟรี จึงสามารถผลิตกล้าไม้ได้แค่เพียงปีละ 200,000 - 300,000 ต้น โดยยังต่ำกว่าความต้องการถึง 50 % แม้ว่าจะมีหน่วยงานในจังหวัดตรัง เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรืออื่นๆ ช่วยจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือเพิ่มเติมในบางกรณีแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ภายในเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ของสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง จะถูกจัดสรรเพื่อเพาะชำกล้าไม้ชนิดต่างๆ ตามลักษณะความต้องการของถิ่น ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10-15 ชนิดหลักๆ เช่น ศรีตรัง ไม้ประจำจังหวัดตรัง หรือ กฤษณา และหลุมพอ ไม้ประจำถิ่นของจังหวัดตรัง รวมทั้ง พะยอม ตะเคียนทอง ยางนา มะฮอกกะนี กระถินเทพา ธัมมัง สะตอ ชะมวง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปีก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนพันธุ์ไม้ไปบ้าง โดยจะคำนึงความต้องการ ความเหมาะสม และลักษณะการเติบโต เพื่อให้ไม้ทุกต้นที่นำลงไปปลูกลงดินเกิดประโยชน์เต็มที่ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตสูงใหญ่ขึ้นปกคลุมเป็นผืนป่า ซึ่งจะช่วยให้สภาพธรรมชาติกลับคืนมาสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่เคยถูกบุกรุกทำลายไปก่อนหน้านี้

ในช่วงหลังมานี้ ทิศทางความต้องการกล้าไม้เริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งนอกจากจะนำไปปลูกเพื่อการอนุรักษ์แล้ว ยังหวังประโยชน์จากไม้ในด้านอื่นๆ ด้วย โดยบางชนิดนอกเหนือไปจากการที่จะหวังผลจากลำต้นหรือเนื้อไม้เพียงอย่างเดียวแล้ว ยังสามารถเก็บใบหรือผลไปจำหน่ายได้อีกด้วย เช่น มะขาม สะตอ สะเดา จิก มะกอกป่า มะม่วงหิมพานต์ ซึ่งพบว่าประชาชนชาวตรังบางรายสามารถดำเนินการจนเกิดผลสำเร็จดียิ่ง

ขณะที่ไม้เชิงเศรษฐกิจชนิดโตเร็วที่มีอายุประมาณ 10 ปี ก็ตัดขายได้แล้ว เช่น กระถินเทพา มะฮอกกะนี นั้น ก็กำลังได้รับความนิยมสูงเช่นกัน เพียงแต่กล้าไม้แต่ละต้นกว่าที่จะสามารถนำไปปลูกลงดินได้ ต้องใช้เวลาเพาะชำค่อนข้างนาน คือ ตั้งแต่ 2 เดือน ไปจนถึง 1 ปี เพื่อให้ต้นของมันเกิดความแข็งแรงสมบูรณ์มากที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น