ยะลา - เกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะหา หลังออกจากเวรยาม ขณะเดินทางกลับบ้านพักเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา จนเกิดเหตุปะทะกันประมาณ 10 นาที จนคนร้ายล่าถอยไป ส.ต.ท.ถูกยิงด้วยเอ็ม 16 เข้าหน้าอก 5 นัด พบเสื้อเป็นรู แต่มีแค่รอบช้ำและแน่นหน้าอก รอดปาฏิหาริย์
ตำรวจยะลาหนังเหนียว ถูกซุ่มยิงด้วย เอ็ม 16 ถูกหน้าอก ไม่ระคายเคืองศูนย์วิทยุสื่อสาร จ.ยะลา รายงานเมื่อเวลา 07.45 น.วันนี้(4 ก.ย.) ว่าเมื่อเวลา 21.30 น.คืนที่ผ่านมาขณะที่ ส.ต.ท.พงษ์เทพ เจริญโสภณ อายุ 27 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.ยะหา ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากเวรยามที่ สภ.เดินทางกลับบ้านพักที่แฟลตตำรวจบ้านควนกูบู หมู่ 3 ต.ยะหา ขณะมาถึงบริเวณบ้านพงลูกา หมู่ 3 ตำบลเดียวกัน
ก่อนถึงบ้านพักราว 500 เมตร ถูกคนร้ายซุ่มยิง เป็นเหตุให้จักรยานยนต์ล้มลง ส.ต.ท.พงษ์เทพ ถูกยิงบริเวณหน้าอกได้รับบาดเจ็บ แต่ยังแข็งใจใช้อาวุธปืนประจำกาย เอชเค 33 ยิงตอบโต้คนร้ายจนเกิดการปะทะกันขึ้นประมาณ 10 นาที ใช้กระสุนไปจำนวน 2 แม็กครึ่ง ประมาณ 60 นัด คนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีล่าถอยเข้าป่าไป
พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผกก.พ.ต.ท.ประสม หลวงพูล สวป.ทราบเหตุนำกำลังรุดไปช่วยเหลือ นำ ส.ต.ท.พงษ์เทพ ส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงรอยช้ำบริเวณหน้าอก และมีอาการแน่นหน้าอก แต่ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด แพทย์ได้ให้พักผ่อนเพื่อรอดูอาการ และได้ส่งมารักษาอาการต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา เจ้าหน้าเชื่อว่าเป็นการก่อเหตุของพวกแนวร่วมอาร์เคเค ในพื้นที่ ที่ต้องการแก้แค้นให้กับพวกตนเอง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะหา ตรวจค้นจับกุมได้แนวร่วม 1 คน ในพื้นที่ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผกก.สภ.ยะหา เปิดเผยว่า จากการสอบถามและตรวจสอบตามร่างกายของ ส.ต.ท.พงษ์เทพ เจริญโสภณ ลูกน้อง พบว่าเสื้อนอกซึ่งเป็นชุดเขียวตำรวจ และเสื้อใน มีร่องรอยของถูกกระสุนปืนขาดเป็นรู รวม 5 รู ซึ่งในเวลาเกิดเหตุ ส.ต.ท.พงษ์เทพ ไม่ได้สวมใส่เสื้อเกราะกันกระสุนแต่อย่างใด และตรวจสอบของรอยกระสุนที่เสื้อทราบว่าเป็นรอยของกระสุนปืน เอ็ม 16 อีกด้วย ตนไม่ทราบว่าเหตุใด ที่กระสุนไม่ระคายเคือง แต่ทราบว่าลูกน้องได้แขวนพระและเหรียญอยู่ 3 องค์
ด้าน ส.ต.ท.พงษ์เทพ เจริญโสภณ ตำรวจหนังเหนียว รายนี้เปิดเผยขณะนอนรักษาตัวที่ ตึกศัลยกรรมชาย ชั้น 3 โรงพยาบาลยะลาว่า ขณะที่ตนขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ มีเสียงปืนดังขึ้น และรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลง รู้ว่าตัวเองถูกซุ่มยิง จึงได้ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงตอบโต้ จนเกิดการปะทะกันขึ้นนานกว่า 10 นาที คนร้ายได้ล่าถอยไป เพื่อนได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จยุพราช พบว่าตามลำตัวบริเวณหน้าอก มีร่องรอยถูกกระสุนปืนทำให้เสื้อนอกและในขาดเป็นรู และมีรอยช้ำที่ผิวหนัง จำนวน 5 จุดด้วย พร้อมกับมีอาการแน่นหน้าอก แต่ไม่ได้ทะลุเข้าไปในเนื้อแต่อย่างใด
ส.ต.ท.พงษ์เทพ กล่าวเสริมอีกว่า ในขณะเกิดเหตุตนได้แขวนพระไว้ 3 องค์ คือ พระสมเด็จพระชินราช เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเหรียญพระนเรศวรออกศึก โดยสมเด็จพระชินราช นั้นมีมานานแล้ว แต่มาแขวนที่คอจริงๆ ตั้งแต่ปี 2551 ที่ตนเอง มารับราชการตำรวจในพื้นที่ อ.ยะหา เหรียญกรมหลวงชุมพร ได้รับจาก พ่อตาเมื่อปี 2552 จาก จ.ตรัง ส่วนเหรียญพระนเรศวรออกศึก ได้มาจากคุณตา เมื่อปี 2533
