ปัตตานี - ตร.เผย ระบุตัวผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดทหาร รปภ.พระ ได้แล้ว เนื่องจากมีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้
วันนี้ (24 ส.ค.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเชษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ขณะเดินรักษาความปลอดภัยแก่พระสงฆ์ขณะเดินบิณฑบาต บริเวณ ถ.ปากน้ำ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้มีทั้งทหาร พระ และประชาชนได้รับบาดเจ็บ รวม 13 รายเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า หลังเกิดเหตุได้มีการส่งชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามหาพยานหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งปรากฏว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล
เนื่องจากมีพยานยืนยันว่า เห็นคนร้ายอย่างชัดเจน โดยคนร้ายได้นำระเบิดมาซุกไว้ในช่วงเวลา 03.00 น.ของวันที่ 23 ส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ได้มีการไล่ตรวจสอบทุกเส้นทาง ทั้งภาพจากกล้องหน่วยงานรัฐและเอกชน และขณะนี้ได้นำภาพผู้ต้องสงสัยมาขยาย เพื่อสเกตช์ภาพเปรียบเทียบภาพจากแฟ้มประวัติผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นสามารถที่จะระบุตัวผู้ที่ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยคนร้ายเป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอเวลาสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาก่อน คาดว่า จะสามารถออกหมายจับได้ในไม่ช้านี้
สำหรับการดูแลความปลอดภัยพระของตำรวจนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี ระบุว่า ได้มีการเพิ่มชุดนอกเครื่องแบบออกหาข่าวและเฝ้าระวังตามเส้นทางที่พระใช้เดินบิณฑบาตในตอนเช้า และจะมีการประสานกับฝ่ายทหารในการปฏิบัติร่วม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์และประชาชน
ส่วนความคืบหน้าอาการของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้ง 9 นายนั้น ยังคงมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 7 นาย โดยขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนอีก 2 นาย อาการสาหัส และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ ส.อ.ขวัญชัย วิเชียร และ พลฯ สาธิต จันทร์เหลา ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและหน้าท้อง แพทย์ได้ทำการผ่าตัดแล้ว ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.ส่วนสามเณรและชาวบ้านอีก 4 ราย แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
วันนี้ (24 ส.ค.) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเชษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ขณะเดินรักษาความปลอดภัยแก่พระสงฆ์ขณะเดินบิณฑบาต บริเวณ ถ.ปากน้ำ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้มีทั้งทหาร พระ และประชาชนได้รับบาดเจ็บ รวม 13 รายเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า หลังเกิดเหตุได้มีการส่งชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามหาพยานหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งปรากฏว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล
เนื่องจากมีพยานยืนยันว่า เห็นคนร้ายอย่างชัดเจน โดยคนร้ายได้นำระเบิดมาซุกไว้ในช่วงเวลา 03.00 น.ของวันที่ 23 ส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ได้มีการไล่ตรวจสอบทุกเส้นทาง ทั้งภาพจากกล้องหน่วยงานรัฐและเอกชน และขณะนี้ได้นำภาพผู้ต้องสงสัยมาขยาย เพื่อสเกตช์ภาพเปรียบเทียบภาพจากแฟ้มประวัติผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นสามารถที่จะระบุตัวผู้ที่ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยคนร้ายเป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอเวลาสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาก่อน คาดว่า จะสามารถออกหมายจับได้ในไม่ช้านี้
สำหรับการดูแลความปลอดภัยพระของตำรวจนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี ระบุว่า ได้มีการเพิ่มชุดนอกเครื่องแบบออกหาข่าวและเฝ้าระวังตามเส้นทางที่พระใช้เดินบิณฑบาตในตอนเช้า และจะมีการประสานกับฝ่ายทหารในการปฏิบัติร่วม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์และประชาชน
ส่วนความคืบหน้าอาการของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้ง 9 นายนั้น ยังคงมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 7 นาย โดยขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนอีก 2 นาย อาการสาหัส และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ ส.อ.ขวัญชัย วิเชียร และ พลฯ สาธิต จันทร์เหลา ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและหน้าท้อง แพทย์ได้ทำการผ่าตัดแล้ว ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.ส่วนสามเณรและชาวบ้านอีก 4 ราย แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้วตั้งแต่เมื่อวาน