ระนอง - การค้าชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดระนอง-จังหวัดเกาะสอง คึกคัก 10 เดือน มูลค่ารวมทะลุ 2 หมื่นล้านบาทแล้ว ศุลกากรคาดสิ้นปีงบประมาณมูลค่าพุ่งเกิน 2.5 หมื่นล้านบาท
นายหาญศักดิ์ วัลศิริ นายด่านศุลกากรระนอง เปิดเผยว่า การค้าชายแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2554 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 -เดือนกรกฎาคม 2554 มีความคึกคักเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีมูลค่ารวม 21,132 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 18,242 ล้านบาท สินค้าส่งออก 10 อันดับแรก ประกอบด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง/หล่อลื่น, เครื่องดื่มต่างๆ, เครื่องดื่มให้พลังงาน, ครีมเทียม/โอวัลติน, เบียร์, ท่อเหล็ก, รองเท้า, ของทำด้วยเหล็ก, อวน/ตาข่ายจับปลา, ยางนอกรถยนต์ ส่วนการนำเข้า 2,890 ล้านบาท สินค้านำเข้า 10 อันดับแรก ประกอบด้วย สัตว์น้ำ, ของทำด้วยเหล็ก, ถ่านไม้, ท่อเหล็ก, ปลาป่น, กระเพาะปลา, ข้อต่อเหล็ก, สิ่งปรุงแต่งใช้ในงานปิโตรเลียม, ไม้แปรรูป และ หวาย
นายหาญศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจัยที่ทำให้การค้าชายแดนด้านระนอง-เกาะสอง มีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมูลค่ารวมอยู่ที่ 13,750 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการปิดด่านทางภาคเหนือเป็นเวลานาน และเป็นผลมาจากปริมาณการบริโภคและความต้องการสินค้าในฝั่งประเทศพม่าเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากพม่ามีโครงการก่อสร้างและพัฒนาเมืองชายฝั่งทางตอนใต้ โดยเฉพาะเมืองทวาย และมะริด เชื่อว่า ช่วงเวลาที่เหลืออีกเพียง 2 เดือน มูลค่าการค้ารวมชายแดนด้านนี้ทะลุ 25,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายหาญศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดเก็บรายได้ของด่านศุลกากรระนองในรอบ 10 เดือนของปีงบประมาณ 2554 มีรายได้หลักมาจาก 3 ส่วน คือ อากรขาเข้า 15 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 14 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
