ปัตตานี - จับ 2 ตร.ปคม.หัวหมอล่อซื้อบริการทางเพศ ก่อนแสดงตัวแล้วรีดทรัพย์เจ้าของร้านแลกกับการไม่ดำเนินคดี คาดทำมาแล้วหลายครั้ง
วานนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวาณิช รอง ผบช.ศชต. ได้รับร้องเรียนจาก นางสร้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านคาราโอเกะรวมเพื่อน ตั้งอยู่ที่ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย มารีดไถเงิน จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี กำลังไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นางสร้อยได้รีบเข้ามาร้องเรียนและชี้ตัวชาย 2 คนที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจมารีดไถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมตรวจสอบ ทราบชื่อ ด.ต.เจริญ นุชสองพี่น้อง อายุ 45 ปี สังกัดตำรวจป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และนายรณัฐพงศ์ กุลณรงค์ อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.6 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก โดยทั้งสองให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก เปิดเผยว่า ชายทั้ง 2 คนนี้จะร่วมกันตระเวนออกตรวจร้านคาราโอเกะแล้วจะออกอุบายขอซื้อบริการทางเพศกับพนักงานในร้าน เมื่อตกลงราคาและจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว ด.ต.เจริญ กับพวกจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม แล้วเรียกทรัพย์สินเป็นเงิน จำนวน 8,000 บาท เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายถูกดำเนินคดี ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายราย
วานนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวาณิช รอง ผบช.ศชต. ได้รับร้องเรียนจาก นางสร้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านคาราโอเกะรวมเพื่อน ตั้งอยู่ที่ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย มารีดไถเงิน จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี กำลังไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นางสร้อยได้รีบเข้ามาร้องเรียนและชี้ตัวชาย 2 คนที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจมารีดไถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมตรวจสอบ ทราบชื่อ ด.ต.เจริญ นุชสองพี่น้อง อายุ 45 ปี สังกัดตำรวจป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และนายรณัฐพงศ์ กุลณรงค์ อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.6 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก โดยทั้งสองให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก เปิดเผยว่า ชายทั้ง 2 คนนี้จะร่วมกันตระเวนออกตรวจร้านคาราโอเกะแล้วจะออกอุบายขอซื้อบริการทางเพศกับพนักงานในร้าน เมื่อตกลงราคาและจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว ด.ต.เจริญ กับพวกจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม แล้วเรียกทรัพย์สินเป็นเงิน จำนวน 8,000 บาท เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายถูกดำเนินคดี ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายราย