ปัตตานี - ทนายความพาชาวประมงพื้นบ้านมาไกล่เกลี่ยคดีแพ่ง ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยศาลจังหวัดปัตตานี หลังจากถูกนายทุนเลี้ยงหอยแครงฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 50 ล้านบาท แต่คู่ความไม่พร้อม ศาลจึงนัดไกล่เกลี่ยใหม่อีกครั้ง
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ศาลจังหวัดปัตตานี นายฮารน แวบากอ และนายธีรยุทธ เบญจเดชา ทนายความจากสำนักงานกฎหมายอดิล แอนด์พิช ได้นำชาวประมงพื้นบ้านทั้ง 7 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีแพ่ง กรณีนายทุนเลี้ยงหอยแครงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย มาที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ศาลปัตตานี ตามหมายนัดของศาลเพื่อให้มีการไกล่เกลี่ยจากคู่ความ
โดยนายทุนเลี้ยงหอยแครงได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,373,876 บาท สร้างความวิตกกังวลแก่ชาวประมงพื้นบ้านผู้เป็นจำเลยอย่างยิ่ง ประกอบด้วย นายมุกตาร์ สะแม นายอามะ ปะจูมะ นายแวอูเซ็ง สะนิ นายอาลี มามะ นายกอเดร์ สาแม นายเจะมือดา แวหามะ และนายสมาน โต๊ะเร็ง ทั้งหมดเป็นชาวประมงที่มีฐานะยากจน จึงเรียกร้องความเป็นธรรมในคดีนี้ด้วย
นางน้ำทิพย์ อ่อนชด ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เนื่องด้วยศาลจังหวัดปัตตานีมีนโยบายให้คู่ความได้มีโอกาสร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยวิธีการไกล่เกลี่ย เพื่อเป็นการระงับข้อพิพาททางเลือกในการยุติข้อพิพาท ซึ่งวันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 09.00 น . ศาลนัดไกล่เกลี่ยคู่ความในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 284/2554 และคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 285/2554 ของศาลปัตตานีระหว่างนายมูฮามัดซุกิฟลี ดาโอ๊ะ และพวกฯ กับ นายเจะมือดา แวหามะและพวกรวม 9 คน โดยจำเลยที่ 8 มีตำแหน่งประมงอำเภอเมืองปัตตานี และจำเลยที่ 9 ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ซึ่งทั้งหมด 9 คนนี้ มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการลักหอยแครง ที่มีโจทก์เป็นผู้เลี้ยงหอยแครงไว้ในท้องทะเลอ่าวปัตตานี บริเวณเขตพื้นที่ ต.บานา และ ต.ตันหบงลุโล๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายคิดเป็นทุนทรัพย์รวม 50,373,876 บาท
โดยวันนี้คู่ความยังไม่พร้อม ศาลจึงให้เลื่อนไปพิจารณาเพื่อการไกล่เกลี่ย นัดพร้อมชี้สองสถาน ภายในวันที่ 5 ก.ย. นี้ เวลา 09.00 .น.อีกครั้ง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คดีพิพาทระหว่างนายทุนเลี้ยงหอยแครงกับชาวประมงพื้นบ้านนี้ เกิดขึ้นหลังจากชาวประมงพื้นบ้านได้รวมตัวกันทวงสิทธิ์พื้นที่ทำประมงในอ่าวปัตตานีปัตตานี จากกลุ่มทุนที่ได้ยึดและจับจองพื้นที่ในอ่าวปัตตานีเป็นที่เลี้ยงหอยแครงเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่มีอาชีพทำประมงในบริเวณอ่าวดังกล่าว จึงทำให้กลุ่มทุนฟ้องศาล โดยอ้างว่าชาวประมงพื้นบ้านทำให้ทรัพย์สินของตัวเองเสียหาย
