xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้เหิมป่วนกดบึ้มทหาร 3 ลูกซ้อน “พันตรี” พร้อมพวกเจ็บ 4 นายที่นราฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - คนร้ายลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ทหาร 3 ลูกซ้อนขณะเข้าทำการตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 79 ถล่มฐานชุดพัฒนาสันติที่ 31-6 เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับเจ็บ 4 นาย

เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ (29 ก.ค.) ร.ต.ต.ธนวัฒน์ อ่อนนิ่ม ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31 บริเวณหน้ากูโบว์บ้านเจาะเกาะ ม.1 ต.บูกิต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลัก จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งอยู่ในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณกระจกด้านคนขับ และตัวถังด้านซ้ายแตกและเป็นรูพรุน จอดอยู่ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 20 เมตร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนจุดระเบิดเป็นบริเวณใต้โคนต้นตีนเป็ด มีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน ร.อ.นฤชา บุญตาม ผบ.ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์ออกจากฐาน โดยมี จ.ส.อ.พนม พลอยสกุล เป็นพลขับ และมีลูกน้องอีก 2 คน นั่งกระบะหลัง เพื่อเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่ฐานชุดพัฒนาสันติที่ 31-6 ซึ่งตั้งอยู่ข้างมัสยิดบ้านเจาะเกาะ เมื่อแล้วเสร็จได้นั่งรถยนต์เพื่อกลับฐาน โดยนั่งออกมาได้ประมาณ 20 เมตร ได้มีคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้ใต้โคนตีนเป็ด จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่นั่งรถยนต์ผ่านทำให้กระจกและตัวถังถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวหุ้มเกราะจึงทำให้รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด

ต่อมาเวลา 10.10 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังร่วมกันตรวจสอบจุดเกิดเหตุยังไม่แล้วเสร็จ พ.ต.อ.สุธน ผกก.สภ.เจาะไอร้อง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหาร พ.ต.สมรรถชัย แปลงสาย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 และพวก ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายบ้านปาเระลูโบะ-บ้านกือรง ม.9 ต.มะรือโบออก จึงสั่งระดมกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดกลางถนนลึก 1 เมตร กว้าง 1.80 เมตร และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟยาวเข้าไปในป่ารกทึบริมทาง ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 3797 นราธิวาส ตกลงไปอยู่ในคูน้ำ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย คือ พ.ต.สมรรถชัย แปลงสาย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31, ร.อ.อดิศวร คำช่วย ผบ.ร้อย. ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31, ส.อ.ศิริชัย ตรีสัตย์ และ ส.อ.ธีรพงศ์ บุญตาม ทหารที่ร่วมเดินทางมาด้วย ได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเจาะไอร้องไปก่อนหน้าแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.สมรรถชัย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 ได้นั่งรถยนต์ออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ภายในกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีผู้ใต้บังคับบัญชานั่งมาด้วยกัน รวม 6 นาย เพื่อเดินทางไปร่วมตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม.79 ยิงถล่มฐานชุดพัฒนาสันติที่ 31-6 และร่วมตรวจสอบเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหาร ร.อ.นฤชา บุญตาม ผบ.ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31 และขณะที่รถยนต์ของ พ.ต.สมรรถชัย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 แล่นผ่านจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนสายทางลัดไปยังที่ตั้งฐานชุดพัฒนาสันติที่ 31-6 นั้น ได้มีคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่นำไปฝังไว้กลางถนนจนเกิดระเบิดขึ้น ในขณะที่ พ.ต.สมรรถชัย พร้อมพวกนั่งรถยนต์ผ่านแต่ขับคนละเลน จนอานุภาพของระเบิดทำให้รถยนต์ที่ พ.ต.สมรรถชัย พร้อมพวกนั่งมาตกลงไปในคูน้ำอย่างแรงจน พ.ต.สมรรถชัย และพวกอีก 2 นาย ศีรษะไปกระแทกกับห้องโดยสารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ต่อมาเวลา 12.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเหตุคนร้ายวางระเบิด พ.ต.สมรรถชัย รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 อยู่นั้น ได้เกิดระเบิดดังขึ้นอีก 1 ลูก ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร โดยคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ไปวางซุกไว้ในกอหญ้าริมถนน แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและจุดดังกล่าวนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายซุกระเบิดไว้เพื่อจุดชนวนดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่ระเบิดไม่ทำงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์ตัดสัญญาณแล่นผ่าน จึงทำให้คณะเจ้าหน้าที่ที่ร่วมเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด


กำลังโหลดความคิดเห็น