นราธิวาส - ตำรวจไทย-มาเลย์เร่งสืบ หลังพบศพชายนิรนามถูกฆ่าปาดคอทิ้งแม่น้ำสุไหงโก-ลก บริเวณ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หวั่นเชื่อมโยงเหตุก่อความไม่สงบภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (27 ก.ค.) พ.ต.ท.มะตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งสภาพมีร่องรอยถูกปาดคอเกือบขาด แต่งกายด้วยกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อลูกฟูกสีดำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน โดยศพถูกทิ้งลงแม่น้ำสุไหงโก-ลก และน้ำพัดมาติดอยู่ที่ริมตลิ่งของฐาน ตชด.เมืองปาเสมัส ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านปะดังยอ ม.3 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลกของ จ.นราธิวาส
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่ง และทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ภายในตัวแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ และทำการถ่ายรูปบันทึกไว้เพื่อนำไปตรวจสอบเปรียบกับบุคคลในแฟ้มประวัติอาชญากรรม รวมทั้งแฟ้มทำเนียบประวัติกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อคดีความไม่สงบ ว่าผู้ตายเป็นใครมีความเชื่อมโยง และรู้เห็นพัวพันกับเหตุการณ์ร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ก่อนจะประสานให้ญาติเดินทางมาศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (27 ก.ค.) พ.ต.ท.มะตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งสภาพมีร่องรอยถูกปาดคอเกือบขาด แต่งกายด้วยกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อลูกฟูกสีดำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน โดยศพถูกทิ้งลงแม่น้ำสุไหงโก-ลก และน้ำพัดมาติดอยู่ที่ริมตลิ่งของฐาน ตชด.เมืองปาเสมัส ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านปะดังยอ ม.3 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลกของ จ.นราธิวาส
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่ง และทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ภายในตัวแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ และทำการถ่ายรูปบันทึกไว้เพื่อนำไปตรวจสอบเปรียบกับบุคคลในแฟ้มประวัติอาชญากรรม รวมทั้งแฟ้มทำเนียบประวัติกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อคดีความไม่สงบ ว่าผู้ตายเป็นใครมีความเชื่อมโยง และรู้เห็นพัวพันกับเหตุการณ์ร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ก่อนจะประสานให้ญาติเดินทางมาศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป