สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์สั่งเจ้าหน้าที่คุ้มครองช้างป่าคุ้มคลั่งไล่กลับเขตอุทยานฯ ก่อนถูกชาวบ้านทำร้าย หลังก่อเหตุบุกทำลายทรัพย์ชาวบ้าน เหยียบเฒ่าวัย 84 ดับคาสวนยางพารา
จากกรณีเกิดเหตุคนถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดที่สวนยางพารา หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสระ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ทราบชื่อ นายชม แพงก อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.4 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ สภาพศพถูกช้างแตะและกระทืบจนร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งเสียชีวิตคาที่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุวานนี้ (21 ก.ค.) ที่ผ่านมาได้มีช้างป่า 3 ตัว ลงจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เข้ามาทำลายพืชสวนของชาวบ้านในพื้นที่ ม.3, หมู่ 4 และหมู่ 5 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ชาวบ้านได้ไล่ต้อนให้กลับขึ้นไปบนเขาแต่ช้างทั้ง 3 ตัวไม่ยอมกลับขึ้นไป แต่กลับอาละวาดบุกทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านและบ้านเรือนชาวบ้าน จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น และช้างพังตัวหนึ่งได้พลัดหลงฝูงเข้าในพื้นที่หมู่ที่ 4 และเกิดคุ้มคลั่ง และไล่เหยียบพ่อเฒ่าเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากก่อเหตุช้างพังตัวดังกล่าวได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าไปได้
ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับชาวบ้านและอาสาสมัครรวมทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้ทำการปิดล้อมไล่ล่าแต่ไร้วี่แวว และนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อทำการชันสูจน์ก่อนมอบให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหามาตรการป้องกันชาวบ้านรุมทำร้ายช้างป่า พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นและเจ้าหน้าที่อนุรักษ์เร่งกำชับพื้นที่ไล่ต้อนช้างกลับเข้าเขตอุทยานฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างถูกทำร้าย
สำหรับสาเหตุที่ช้างป่าลงมาหากินในหมู่บ้าน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางน้ำเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ทำให้อาหารของช้างขาดแคลน ช้างจึงได้ลงมาหาอาหารในหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดกลับอุทยานฯ
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ พร้อมคณะ จะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
จากกรณีเกิดเหตุคนถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดที่สวนยางพารา หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสระ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ทราบชื่อ นายชม แพงก อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.4 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ สภาพศพถูกช้างแตะและกระทืบจนร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งเสียชีวิตคาที่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุวานนี้ (21 ก.ค.) ที่ผ่านมาได้มีช้างป่า 3 ตัว ลงจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เข้ามาทำลายพืชสวนของชาวบ้านในพื้นที่ ม.3, หมู่ 4 และหมู่ 5 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ชาวบ้านได้ไล่ต้อนให้กลับขึ้นไปบนเขาแต่ช้างทั้ง 3 ตัวไม่ยอมกลับขึ้นไป แต่กลับอาละวาดบุกทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านและบ้านเรือนชาวบ้าน จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น และช้างพังตัวหนึ่งได้พลัดหลงฝูงเข้าในพื้นที่หมู่ที่ 4 และเกิดคุ้มคลั่ง และไล่เหยียบพ่อเฒ่าเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากก่อเหตุช้างพังตัวดังกล่าวได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าไปได้
ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับชาวบ้านและอาสาสมัครรวมทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้ทำการปิดล้อมไล่ล่าแต่ไร้วี่แวว และนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อทำการชันสูจน์ก่อนมอบให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหามาตรการป้องกันชาวบ้านรุมทำร้ายช้างป่า พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นและเจ้าหน้าที่อนุรักษ์เร่งกำชับพื้นที่ไล่ต้อนช้างกลับเข้าเขตอุทยานฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างถูกทำร้าย
สำหรับสาเหตุที่ช้างป่าลงมาหากินในหมู่บ้าน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางน้ำเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ทำให้อาหารของช้างขาดแคลน ช้างจึงได้ลงมาหาอาหารในหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดกลับอุทยานฯ
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ พร้อมคณะ จะลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย