ชุมพร - สมาคมชาวสวนปาล์มชุมพร แนะรัฐบาลใหม่ วางนโยบายเกี่ยวกับปาล์มทั้งระบบ เพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอย
นายสัญญา ปานสวี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร กล่าวถึงคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มีมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 กำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดในราคา กก.ละ 36.28 บาท และโรงสกัดต้องรับซื้อผลปาล์มไม่ต่ำกว่า กก.ละ 6 บาท ณ หน้าโรงงานที่คุณภาพผลปาล์มอัตราการให้น้ำมันไม่ต่ำกว่า 17% ระหว่างวันที่ 10 เมษายน-30 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา
ทำให้ลานปาล์มงดรับซื้อปาล์มในระยะแรก และได้รับซื้อปาล์มในราคาต่ำกว่า 6 บาท และประกาศดังกล่าวได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.54 ปัจจุบันทำให้ราคาปาล์ม รับซื้อหน้าโรงงานลดลงเหลือ 5.50 บาท ต่อกิโลกรัม ส่วนลานเท จะรับซื้อในราคา 4.70 บาท
“ราคาปาล์มที่ตกลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก กลไกตลาด ซึ่งชาวสวนรับได้ และไม่ติดใจ ส่วนที่ติดใจคือคุณภาพและปริมาณน้ำมัน ราคา 6 บาท ได้กำหนดอัตราน้ำมันไว้ที่ 17% แต่ถ้าปริมาณน้ำมันมากกว่า 17% จะต้องได้ราคาที่สูงกว่าที่กำหนด ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่แก้อยากเพราะขึ้นอยู่กับโรงงาน” นายสัญญา กล่าว
นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร ยังกล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ยังไม่มีการประชุมแต่อย่างใด ซึ่งตนเองก็เป็นหนึ่ง ใน 4 คนจากตัวแทนองค์กรชาวสวนปาล์ม ที่ได้รับเลือก อยากให้รัฐบาลใหม่วางนโยบายปาล์มน้ำมันทั้งระบบ
โดยเฉพาะการคาดการณ์ปริมาณน้ำมันที่จะออกสู่ตลาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอย รัฐบาลที่แล้ว การกำหนดมาตรฐาน การตัดปาล์ม, ลานเท, โรงสกัด และโรงกลั่น ให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขปัญญาคุณภาพปาล์ม และเพื่อถ่วงดุลการกำหนดราคา ที่ไม่เป็นธรรมจากโรงสกัดและโรงกลั่น ควรจะส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัว ตั้งลานเท โรงสกัด และโรงกลั่นเป็นของกลุ่มเกษตรกร โดยลานเทจำนวน 10 ลานต่อ โรงสกัด 1 โรง และโรงสกัด 10 โรง ต่อโรงกลั่น 1 โรง หากดำเนินการได้ เกษตรกรจะเป็นผู้กำหนดราคาปาล์มน้ำมันเองได้
นายสัญญา ปานสวี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร กล่าวถึงคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มีมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 กำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดในราคา กก.ละ 36.28 บาท และโรงสกัดต้องรับซื้อผลปาล์มไม่ต่ำกว่า กก.ละ 6 บาท ณ หน้าโรงงานที่คุณภาพผลปาล์มอัตราการให้น้ำมันไม่ต่ำกว่า 17% ระหว่างวันที่ 10 เมษายน-30 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา
ทำให้ลานปาล์มงดรับซื้อปาล์มในระยะแรก และได้รับซื้อปาล์มในราคาต่ำกว่า 6 บาท และประกาศดังกล่าวได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.54 ปัจจุบันทำให้ราคาปาล์ม รับซื้อหน้าโรงงานลดลงเหลือ 5.50 บาท ต่อกิโลกรัม ส่วนลานเท จะรับซื้อในราคา 4.70 บาท
“ราคาปาล์มที่ตกลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก กลไกตลาด ซึ่งชาวสวนรับได้ และไม่ติดใจ ส่วนที่ติดใจคือคุณภาพและปริมาณน้ำมัน ราคา 6 บาท ได้กำหนดอัตราน้ำมันไว้ที่ 17% แต่ถ้าปริมาณน้ำมันมากกว่า 17% จะต้องได้ราคาที่สูงกว่าที่กำหนด ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่แก้อยากเพราะขึ้นอยู่กับโรงงาน” นายสัญญา กล่าว
นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร ยังกล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ยังไม่มีการประชุมแต่อย่างใด ซึ่งตนเองก็เป็นหนึ่ง ใน 4 คนจากตัวแทนองค์กรชาวสวนปาล์ม ที่ได้รับเลือก อยากให้รัฐบาลใหม่วางนโยบายปาล์มน้ำมันทั้งระบบ
โดยเฉพาะการคาดการณ์ปริมาณน้ำมันที่จะออกสู่ตลาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอย รัฐบาลที่แล้ว การกำหนดมาตรฐาน การตัดปาล์ม, ลานเท, โรงสกัด และโรงกลั่น ให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขปัญญาคุณภาพปาล์ม และเพื่อถ่วงดุลการกำหนดราคา ที่ไม่เป็นธรรมจากโรงสกัดและโรงกลั่น ควรจะส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัว ตั้งลานเท โรงสกัด และโรงกลั่นเป็นของกลุ่มเกษตรกร โดยลานเทจำนวน 10 ลานต่อ โรงสกัด 1 โรง และโรงสกัด 10 โรง ต่อโรงกลั่น 1 โรง หากดำเนินการได้ เกษตรกรจะเป็นผู้กำหนดราคาปาล์มน้ำมันเองได้
