ยะลา - ชาวบ้านผวาหลังเกิดเหตุระเบิดในสวนยางที่อำเภอรามัน ยะลา วอนรัฐจัดกำลัง ทหาร มาดูแลด่วน เพราะยังต้องอาศัยสวนยางเป็นแหล่งรายได้ และยังไม่รู้จะอพยพย้ายออกไปไหน เนื่องจากอาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ชาวไทยพุทธที่บ้านทุ่งขมิ้น หมู่ที่ 3 ตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา นั่งจับกลุ่มร่วมหารือกันในการจัดการความเป็นอยู่ให้กับคนในหมู่บ้านที่มีอยู่ 10 หลังคาเรือน หลังจากเกิดเหตุระเบิดภายในสวนยางพาราของของนายสว่าง มณีสังข์ จนเป็นเหตุให้นายสุนทร มณีสังข์ ลูกชายวัย 41 ปี เหยียบกับระเบิดของกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางฝังไว้ในสวนยางจนขาขวาเละ แพทย์ต้องผ่าตัดทิ้งเป็นการด่วน
นอกจากนี้ ในขณะที่กำลังตำรวจ ชุดเก็บกู้ระเบิด ศรศึกศรชัย ( EOD) ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าไปตรวจสอบ ได้เหยียบกับระเบิดลูกที่ 2 และลูกที่ 3 เป็นเหตุให้ตำรวจบาดเจ็บอีก 12 นาย ในจำนวนนี้สาหัสต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 2 คน
นายสิน บางลอย ชาวไทยพุทธบ้านทุ่งขมิ้น เพื่อนบ้านของนายสุนทร มณีสังข์ ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสไป 1 ราย หลังเกิดเหตุมีตำรวจและทหารมาดูแลความปลอดภัยอยู่สักระยะหนึ่งจนมาเกิดเหตุอีก
ในครั้งนี้ จึงขอให้ฝ่ายรัฐจัดกำลังทหารหรือตำรวจมาอยู่ประจำ เหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ ด้วย ขณะนี้ชาวบ้านอยู่ในอาการหวาดผวา เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้หยุดกรีดยางก่อน เพื่อต้องการเข้าตรวจสอบเกรงว่าจะมีระเบิดหลงเหลืออยู่จะเป็นอันตรายแก่เจ้าของสวนยางอีก ซึ่งตนและเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนมากหากต้องหยุดหลายวัน เพราะทุกคนมีอาชีพกรีดยางเพียงอย่างเดียว ในขณะที่น้ำยางในถ้วยตามต้นยางก็ต้องปล่อยให้อยู่ ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้เก็บมาขาย ซึ่งเสี่ยงกับถูกขโมยไป เนื่องจากยางมีราคาดี
นายสมพจน์ ท่วมจีบ เพื่อนบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนได้ยินเสียงระเบิดดัง แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงของยางรถยนต์ระเบิดจึงไม่สนใจ แต่เมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ไม่ได้เหยียบกับระเบิดที่หลงเหลืออยู่ เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนายกับ แซ่ไว วัย 86 ปี และ นางล้วน แซ่ไว วัย 67 ปี สองสามีภรรยา ต้องอยู่อย่างผวาเกรงกลัวต่อสถานการณ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนอีกแล้ว เนื่องจากเกิดและโตที่นี้ หลังจากคุณพ่อซึ่งเป็นคนจีนมาบุกเบิกป่าทึบ เพื่อรับจ้างเลื่อยไม้ขายเป็นไม้หมอนรางรถไฟในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่อาศัย ทำสวนยางและสวนผลไม้มาจนถึงปัจจุบัน
นายกับกล่าวว่า ตนต้องอยู่อย่างผวามาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าจะระวังตัวอย่างไร จึงปลงแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นก็คงต้องทำใจ ซึ่งเมื่อ 10 ปี ก่อน ลูกชายคนกลางชื่อนายบรรชา แซ่ไว อายุ 25 ปี ก็ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตมาแล้ว
สำหรับตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา นั้น มีชุมชนไทยพุทธอาศัยอยู่ 2 หมู่บ้าน คือบ้านไทย หมู่ที่ 2 และบ้านทุ่งขมิ้น หมู่ที่ 3 ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านเคยถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางมาแล้วหลายครั้ง ทำให้บางคนต้องขายที่อพยพหลบหนีไปอยู่ที่อื่นหลายครอบครัวแล้ว
ชาวไทยพุทธที่บ้านทุ่งขมิ้น หมู่ที่ 3 ตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา นั่งจับกลุ่มร่วมหารือกันในการจัดการความเป็นอยู่ให้กับคนในหมู่บ้านที่มีอยู่ 10 หลังคาเรือน หลังจากเกิดเหตุระเบิดภายในสวนยางพาราของของนายสว่าง มณีสังข์ จนเป็นเหตุให้นายสุนทร มณีสังข์ ลูกชายวัย 41 ปี เหยียบกับระเบิดของกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางฝังไว้ในสวนยางจนขาขวาเละ แพทย์ต้องผ่าตัดทิ้งเป็นการด่วน
นอกจากนี้ ในขณะที่กำลังตำรวจ ชุดเก็บกู้ระเบิด ศรศึกศรชัย ( EOD) ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าไปตรวจสอบ ได้เหยียบกับระเบิดลูกที่ 2 และลูกที่ 3 เป็นเหตุให้ตำรวจบาดเจ็บอีก 12 นาย ในจำนวนนี้สาหัสต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 2 คน
นายสิน บางลอย ชาวไทยพุทธบ้านทุ่งขมิ้น เพื่อนบ้านของนายสุนทร มณีสังข์ ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสไป 1 ราย หลังเกิดเหตุมีตำรวจและทหารมาดูแลความปลอดภัยอยู่สักระยะหนึ่งจนมาเกิดเหตุอีก
ในครั้งนี้ จึงขอให้ฝ่ายรัฐจัดกำลังทหารหรือตำรวจมาอยู่ประจำ เหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ ด้วย ขณะนี้ชาวบ้านอยู่ในอาการหวาดผวา เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้หยุดกรีดยางก่อน เพื่อต้องการเข้าตรวจสอบเกรงว่าจะมีระเบิดหลงเหลืออยู่จะเป็นอันตรายแก่เจ้าของสวนยางอีก ซึ่งตนและเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนมากหากต้องหยุดหลายวัน เพราะทุกคนมีอาชีพกรีดยางเพียงอย่างเดียว ในขณะที่น้ำยางในถ้วยตามต้นยางก็ต้องปล่อยให้อยู่ ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้เก็บมาขาย ซึ่งเสี่ยงกับถูกขโมยไป เนื่องจากยางมีราคาดี
นายสมพจน์ ท่วมจีบ เพื่อนบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนได้ยินเสียงระเบิดดัง แต่เข้าใจว่าเป็นเสียงของยางรถยนต์ระเบิดจึงไม่สนใจ แต่เมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จึงได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ไม่ได้เหยียบกับระเบิดที่หลงเหลืออยู่ เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนายกับ แซ่ไว วัย 86 ปี และ นางล้วน แซ่ไว วัย 67 ปี สองสามีภรรยา ต้องอยู่อย่างผวาเกรงกลัวต่อสถานการณ์ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนอีกแล้ว เนื่องจากเกิดและโตที่นี้ หลังจากคุณพ่อซึ่งเป็นคนจีนมาบุกเบิกป่าทึบ เพื่อรับจ้างเลื่อยไม้ขายเป็นไม้หมอนรางรถไฟในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่อาศัย ทำสวนยางและสวนผลไม้มาจนถึงปัจจุบัน
นายกับกล่าวว่า ตนต้องอยู่อย่างผวามาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าจะระวังตัวอย่างไร จึงปลงแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นก็คงต้องทำใจ ซึ่งเมื่อ 10 ปี ก่อน ลูกชายคนกลางชื่อนายบรรชา แซ่ไว อายุ 25 ปี ก็ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตมาแล้ว
สำหรับตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา นั้น มีชุมชนไทยพุทธอาศัยอยู่ 2 หมู่บ้าน คือบ้านไทย หมู่ที่ 2 และบ้านทุ่งขมิ้น หมู่ที่ 3 ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านเคยถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางมาแล้วหลายครั้ง ทำให้บางคนต้องขายที่อพยพหลบหนีไปอยู่ที่อื่นหลายครอบครัวแล้ว
