ตรัง - เด็กๆ จ.ตรังแห่ทำบัตรประจำตัวประชาชนวันแรกคึกคัก ขณะที่เจ้าหน้าที่งานบัตรระบุวันแรกทำได้แค่ 10 คน ส่วนที่เหลือต้องยกยอดไปเป็นวันเสาร์ ที่ 16 ก.ค.นี้ เพราะระบบฐานข้อมูลล่ม
วันนี้(11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการทำบัตรประชาชนของเด็กที่มีอายุระหว่าง 7-14 ปี วันแรก ปรากฏว่าที่งานทะเบียนและบัตรประชาชน ชั้น 1 เทศบาลนครตรัง เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีทั้งผู้ปกครองได้นำบุตรหลาน เดินทางมาพร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อมาทำบัตรประชาชนให้กับบุตรหลานเป็นครั้งแรก
เช่นเดียวกับครูโรงเรียนเทศบาล 1 สังขวิทย์ ซึ่งใช้เวลาในช่วงที่เรียนวิชาภาษาไทย ก็นำนักเรียนชั้น ป.2 กว่า 20 คน เดินทางมาทำบัตรประชาชน ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชนด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขเด็กที่จะต้องมีบัตรประชาชนของ อ.เมือง ในส่วนของเขตเทศบาลนครตรัง มีจำนวนทั้งสิ้น 8,340 คน
ด.ช.ณัฐพล พันธุ์เชวง อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6/2 ร.ร.ปัญญาวิทย์ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่ากระทรวงมหาดไทย เปิดให้เด็กอายุตั้งแต่ 7-14 ปี ทำบัตรประชาชนเป็นวันแรก จึงได้เดินทางมาทำบัตรพร้อมกับมารดา โดยเมื่อถึงคิวของตน เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปกรอกเอกสาร ก็รู้สึกตื่นเต้น จนทำให้มือสั่นเขียนถูกเขียนผิดบ้าง แต่ก็พอทำให้คลายความกังวลลงไปบ้างเมื่อมีมารดาอยู่ใกล้ๆ
ด้าน นายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า เทศบาลนครตรัง ได้เตรียมความพร้อมในการทำบัตรประชาชนให้กับเด็กมาระยะหนึ่งแล้ว ในวันแรกของการทำบัตรประชาชนเด็ก ก็ได้ประสานกับทางโรงเรียนในพื้นที่ รวมทั้งโรงเรียนปอเนาะ และโรงเรียนตาดีกา เพื่อให้นำเด็กเดินทางมาทำบัตรตามกฎหมาย พร้อมออกประชาสัมพันธ์การออกไปให้บริการถึงสถานศึกษาต่างๆ รวมทั้งประสานงานกับสถานศึกษา ทั้ง 21 โรงเรียนในเขตเทศบาลตรัง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกล่าวย้ำกับผู้ปกครองว่า เป็นห่วงการทำบัตรสูญหายของเด็ก เพราะอาจจะส่งผลกระทบทำให้ติดต่อราชการไม่ได้
ขณะที่ นางดารารัตน์ พุทธเสน หัวหน้างานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เทศบาลนครตรัง กล่าวว่าในวันแรกของการเปิดให้ทำบัตรประชาชนเด็ก ปรากฏว่า เทศบาลนครตรัง สามารถทำบัตรประชาชนให้เด็กได้เพียง 10 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องยกยอดให้มาทำใหม่ในวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม แทนเนื่องจากระบบฐานข้อมูลทั่วประเทศขัดข้อง ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุง สำหรับปัญหาที่พบในการทำบัตรประชาชนของเด็กคือ ส่วนใหญ่จะเขียนชื่อและนามสกุลของตัวเองเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ และไม่ทราบว่าผลเลือดของตัวเองกรุ๊ปอะไร จึงจำเป็นต้องที่จะต้องนำผู้ปกครองมาคอยบอกรายละเอียดให้