xs
xsm
sm
md
lg

ตรังเสนอนำเกาะรังนกอีแอ่นคืนจากอุทยานฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น และ อบจ.ตรัง เตรียมนำเกาะเหลาเหลียงเหนือ กลับคืนมาจากทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และเหลาเหลียง หลังพบมิได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ที่ร้องขอจากคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง

นายไชยศ ธงไชย ปลัดจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการประชุมหารือของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 30 คน โดยมี นายไมตรี อินตุสุต ผุ้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาทบทวนกรณีที่มีการอนุญาตให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราและเหลาเหลียง ใช้เกาะเหลาเหลียงเหนือ เพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว แต่ช่วงที่ผ่านมาพบว่า มิได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ร้องขอจากคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง

ทั้งนี้ เนื่องจากการที่จะให้เกาะรังนกอีแอ่น อยู่ร่วมกับการท่องเที่ยว มักจะเกิดปัญหา เพราะเกาะรังนกต้องการความสงบบนเกาะ ส่วนการท่องเที่ยวจะมีเสียงดังวุ่นวาย และเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในเขตรังนก ก็มักจะมีปัญหากับกับผู้ดูแลสัมปทานจัดเก็บรังนก ซึ่งหากจังหวัดตรัง ต้องการขอคืนพื้นที่เกาะเหลาเหลียงก็ควรจะขอคืนทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลัง เพราะที่ผ่านมาผู้ดูแลรังนกมักจะใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่ล่วงล้ำเข้าไปในเขตสัมปทานรังนกอยู่บ่อยครั้ง

ด้าน นางราตรี ปักษี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสุกร อ.ปะเหลียน หนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง และเป็นพื้นที่เกาะมีรังนกอีแอ่นมากที่สุด หรือปริมาณ 7 ใน 10 ของรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง ทั้งหมด กล่าวว่า เมื่อปี 2552 ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และเหลาเหลียง ได้ยื่นหนังสือขอใช้พื้นที่เกาะเหลาเหลียงเหนือ ประมาณ 100 ไร่ เพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์พันธุ์รังนกอีแอ่น

อย่างไรก็ตาม ในห้วงที่ผ่านมาหลังจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราและเหลาเหลียง ได้เข้ามาดูแลพื้นที่เกาะเหลาเหลียนเหนือ ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของ อบต.เกาะสุกรแล้ว ปรากฏว่า ได้มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น มีการขอใช้พื้นที่เกาะเหลาเหลียงเพื่ออนุรักษ์พันธุ์นกอีแอ่น แต่กลับมีบุคคลภายนอกลักลอบเข้าไปเก็บรังนก และไม่มีการดำเนินการจับกุมมาดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด

นอกจากนั้นยังได้มีการทิ้งขยะบนเกาะเหลาเหลียงเหนือ บริเวณหาดทรายอย่างเรี่ยราด อีกทั้งยังขาดการเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ และมีการเรียกเก็บค่าใช้พื้นที่เกาะอย่างไร้เหตุผล จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากปล่อยให้ทางอุทยานฯ บริหารจัดการเกาะต่อไป อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ อบต.เกาะสุกร และพื้นที่เกาะรังนกได้ จึงเห็นควรนำเกาะเหลาเหลียงเหนือ กลับมาอยู่ในการดูแลของคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นพื้นที่ จ.ตรัง และ อบจ.ตรัง

ขณะที่ นายเทอดไทย ขวัญทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และเหลาเหลียง กล่าวว่า หากทางจังหวัดตรัง จะมีการขอเกาะเหลาเหลียงเหนือ เฉพาะพื้นที่ถ้ำรังนกอีแอ่น กลับคืน ทางอุทยานฯ ก็ไม่ขัดข้อง เนื่องจากสภาพเกาะในปัจจุบันมีรังนกในปริมาณที่น้อยมาก โดยช่วงการสัมปทานจัดเก็บรังนกระยะเวลา 5 ปีนี้ จะสามารถจับเก็บได้สูงสุดมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ชายทะเลโดยเฉพาะเกาะแก่งต่างๆ ซึ่งทางอุทยานฯ ได้ใช้เพื่อการท่องเที่ยวมาแล้วนั้น ก็ยังคงมีสิทธิตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติที่จะใช้ประโยชน์ต่อไป ส่วนปัญหาขยะที่พบอยู่เกลื่อนกลาดทั่วชายหาดนั้น เพราะช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงมีขยะจากท้องทะเลลอยขึ้นมาบนฝั่ง และปกติทางอุทยานฯ จะจัดเก็บเฉพาะในช่วงหน้าท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ถ้าจะให้จัดเก็บทั้งปี คงไม่สามารถรับภาระได้ไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น