ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต “อัญชลี วานิช เทพบุตร” โชว์วิสัยทัศน์ ภูเก็ตต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยการวางตำแหน่งเป็น “ประตูเชื่อมท่องเที่ยวโลก” ด้วยการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรรองรับ
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ว่า ภูเก็ตต้องชูจุดขายด้านการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการ อนุรักษ์วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเห็นว่า ภูเก็ตต้องกำหนดตัวเองเป็น “ประตูเชื่อมการท่องเที่ยวโลก” เนื่องจากแต่ละปีเรามีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาพักผ่อน มาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม และความเป็นไทย ในภูเก็ต และอันดามัน
สิ่งที่จะต้องพัฒนาเพื่อผลักดันให้ภูเก็ต ก้าวไปสู่การเป็นประตูเชื่อมการท่องเที่ยวโลกนั้น แน่นอนที่สุด การพัฒนาคนเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่จะต้องดำเนินการพัฒนาระบบการศึกษา พัฒนาเด็กๆ เยาวชน ให้ได้คุณภาพทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยเฉพาะอีก 4 ปีข้างหน้า ที่อาเซียนจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว หรือที่เราเรียกว่า “ประชาคมอาเซียน” ประชากรในอาเซียนจะเดินทางทำมาค้าขายกันอย่างเสรี เราจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาบุคลากร ทรัพยากรมนุษย์ ลูกหลานเราให้พร้อมรับมือได้ ทรัพยากรบุคคล ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการรองรับเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ถือเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ทั้งในเรื่องของน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็นจะต้องมีให้เพียงพอกับความต้องการ ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำดิบ ขยายพื้นที่ชลประทาน เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำบริการประชาชน และภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาะภูเก็ตอย่างเป็นระบบ ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 8-10 ล้านคน ในปี 2556
ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดสรรงบประมาณไทยเข้มแข็งสำหรับก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถตอบโจทย์การขาดแคลนน้ำของภูเก็ตได้ในระดับหนึ่ง เพราะตามแผนที่วางไว้อ่างเก็บน้ำคลองกะทะ จะรองรับการใช้น้ำทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต รวมถึงการพัฒนาแหล่งน้ำอื่นๆและระบบประปาให้คลอบคลุมทั้งเกาะ
ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ ปัญหาจราจรซึ่ง เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบอย่างเป็นระบบครบวงจร ตั้งแต่สนามบินภูเก็ต จนถึงจุดหมายต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการศึกรายละเอียดไว้แล้วในระดับหนึ่ง โดยมีเส้นทางเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในขั้นแรก 3 เส้นทางหลัก ประกอบด้วย เส้นทางสนามบิน-ห้าแยกฉลอง เส้นทางป่าตองไปยังตัวเมืองภูเก็ต และเส้นทางจากแยกบางคู-ห้าแยกฉลอง และเตรียมศึกษาเพิ่มเติมอีกหนึ่งเส้นทาง เพื่อเชื่อมต่อกับศูนย์ประชุมนานาชาติที่เตรียมจะก่อสร้างในเร็วๆนี้ ที่บริเวณบ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว เท่ากับเป็นการวางแผนรองรับความต้องการอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาจราจรที่แออัดตามแยกหลักๆ เช่น แยกไทนาน และแยกสามกอง (เทสโก้ โลตัส) นั้น ก็มีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง มีการศึกษาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน มีทั้งรูปแบบทางยกต่างระดับ และอุโมงค์ งบประมาณคร่าวๆ ที่ต้องใช้ทั้งสองจุดประมาณ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการพัฒนาด้านอื่นๆ ด้วยการรักษาตลาดกลุ่มเดิมๆ ไว้ และหาตลาดใหม่เข้ามาเสริม เช่น กลุ่ม MICE ที่กำลังจะมีศูนย์ประชุมฯ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กลุ่มตลาดจากรัสเซีย อินเดีย และตลาดตะวันออกกลาง ที่จะมาเสริมตลาดในช่วงกรีนซีซันได้ เป็นต้น