นครศรีธรรมราช - เลือกตั้งเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พลิกล็อก “เทพไท” ดัน “เชาวนวัศน์” พี่ชาย ชิงนายกเทศมนตรีสำเร็จ ทิ้งห่างเฉียดหมื่นคะแนน ทีม “สมนึก” พ่ายหมดรูปยกสภาทั้ง 24 ที่นั่ง หักปากกาเซียนกระเป๋าฉีกระนาว
วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.54 โดยผลการนับคะแนนได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 04.00 น.ของเช้าวันที่ 20 มิ.ย.ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้นต่างสร้างความแปลกใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจาก “ทีมสมนึก” ซึ่งเป็นทีมเก่าของ นายสมนึก เกตุชาติ ที่ครองตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาติดต่อยาวนานถึง 31 ปีติดต่อกัน นับว่านานที่สุดในประเทศไทย ได้ผันตัวเองลงสมัครในตำแหน่ง ส.ท.ส่วนตำแหน่งนายกนั้นได้ส่ง ดร.กณพ เกตุชาติ สมัครรับเลือกตั้งนำทีม “สมนึก” แทน โดยส่ง ส.ท.ครบทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง 24 ที่นั่ง ส่วนคู่แข่งนั้นทีมเชาวนวัศน์ ซึ่งนำโดย ผศ.เชาวนวัศน์ เสนพงศ์ พี่ชายของ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลัง
ผลอย่างไม่เป็นทางการถูกสรุปเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันนี้ ทำให้สร้างความแปลกใจและตกใจให้กับหลายฝ่าย เมื่อ ผศ.เชาวนวัศน์ เสนพงศ์ สามารถเอาชนะได้อย่างถล่มทลายด้วยคะแนน 24,838 ในขณะที่ ดร.กณพ เกตุชาติ ได้คะแนน 15,098 คะแนน มีส่วนต่างของคะแนนถึงเกือบ 1 หมื่นคะแนน และที่ยิ่งสร้างความแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อที่นั่งในสภาเทศบาลจำนวน 24 ที่นั่ง จาก 4 เขตเลือกตั้ง ทีม ผศ.เชาวนวัศน์ สามารถคว้าเก้าอี้ไปได้ถึง 23 ที่นั่ง โดนอีก 1 ที่นั่งนั้น นายพิชัย ลี้วรกุล ผู้สมัครจากทีมนครก้าวใหม่ เบียดแทรกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนทีมสมนึก นั้นแพ้อย่างหมดรูปไม่สามารถมีเก้าอี้อยู่ในเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้เลย นับเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ใหม่ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในรอบกว่า 3 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ในการพ่ายแพ้ครั้งนี้ บรรดาเซียนพนันต่างกระเป๋าฉีกไปตามๆ กัน โดยหลังจากการปิดหีบเลือกตั้ง ราคาต่อรอง ดร.กณพ เกตุชาติ ยังมีราคาเป็นต่อสูงถึง 10 ต่อ 7 ทำให้ผู้ที่ต่อในราคาสูงพ่ายแพ้ยับเยินเช่นเดียวกัน โดยมีการคาดว่าเงินสะพัดในการเลือกตั้งครั้งนับร้อยล้านบาท
ผศ.ตรีพล เจาะจิตต์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการเปลี่ยนแปลงของประชาชน โดยทุกอย่างนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการเมืองท้องถิ่นสนามเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ฝ่ายทีมสมนึกครองพื้นที่มายาวนานประชาชนอาจจะมีการสะสมอะไรบางอย่างประกอบกับการสร้างกระแสความต้องการเปลี่ยนแปลงประสบผลสำเร็จ การเมืองจึงเปลี่ยนขั้วอย่างเด็ดขาด และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
ขณะที่แหล่งข่าวภายในรายหนึ่ง เปิดเผยสาเหตุของความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป และอย่างเหลือเชื่อของทีมสมนึก เกิดจากความประมาทในการจัดทีมผู้สมัคร ส.ท.ที่มีความหละหลวม รวมทั้งปัญหาที่สะสมในพื้นที่หลายปัจจัยผนวกกัน กล่าวคือ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของเทศบาลทำให้ถนนหลายสายทรุดโทรมอย่างหนัก
และมีปัญหาน้ำท่วมทับซ้อนหลายครั้ง ทำให้ไม่สามารถบูรณะถนนสายต่างๆ ได้ทันในช่วงปลายการดำรงตำแหน่งเป็นปัญหาที่กดดันประชาชนในเขตเทศบาล และมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ ดร.กณพ ยิ่งเป็นจุดอ่อนประกอบกับการทำการบ้านอย่างต่อเนื่องของทีม ผศ.เชาวนวัศน์ และมีกลยุทธ์ทั้งบนดินใต้ดินในการสร้างกระแส รวมทั้งการรณรงค์ความต้องการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรมทำให้ชนะอย่างถล่มทลายนั่นเอง
วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.54 โดยผลการนับคะแนนได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 04.00 น.ของเช้าวันที่ 20 มิ.ย.ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้นต่างสร้างความแปลกใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจาก “ทีมสมนึก” ซึ่งเป็นทีมเก่าของ นายสมนึก เกตุชาติ ที่ครองตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาติดต่อยาวนานถึง 31 ปีติดต่อกัน นับว่านานที่สุดในประเทศไทย ได้ผันตัวเองลงสมัครในตำแหน่ง ส.ท.ส่วนตำแหน่งนายกนั้นได้ส่ง ดร.กณพ เกตุชาติ สมัครรับเลือกตั้งนำทีม “สมนึก” แทน โดยส่ง ส.ท.ครบทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง 24 ที่นั่ง ส่วนคู่แข่งนั้นทีมเชาวนวัศน์ ซึ่งนำโดย ผศ.เชาวนวัศน์ เสนพงศ์ พี่ชายของ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลัง
ผลอย่างไม่เป็นทางการถูกสรุปเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันนี้ ทำให้สร้างความแปลกใจและตกใจให้กับหลายฝ่าย เมื่อ ผศ.เชาวนวัศน์ เสนพงศ์ สามารถเอาชนะได้อย่างถล่มทลายด้วยคะแนน 24,838 ในขณะที่ ดร.กณพ เกตุชาติ ได้คะแนน 15,098 คะแนน มีส่วนต่างของคะแนนถึงเกือบ 1 หมื่นคะแนน และที่ยิ่งสร้างความแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อที่นั่งในสภาเทศบาลจำนวน 24 ที่นั่ง จาก 4 เขตเลือกตั้ง ทีม ผศ.เชาวนวัศน์ สามารถคว้าเก้าอี้ไปได้ถึง 23 ที่นั่ง โดนอีก 1 ที่นั่งนั้น นายพิชัย ลี้วรกุล ผู้สมัครจากทีมนครก้าวใหม่ เบียดแทรกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนทีมสมนึก นั้นแพ้อย่างหมดรูปไม่สามารถมีเก้าอี้อยู่ในเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้เลย นับเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ใหม่ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในรอบกว่า 3 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ในการพ่ายแพ้ครั้งนี้ บรรดาเซียนพนันต่างกระเป๋าฉีกไปตามๆ กัน โดยหลังจากการปิดหีบเลือกตั้ง ราคาต่อรอง ดร.กณพ เกตุชาติ ยังมีราคาเป็นต่อสูงถึง 10 ต่อ 7 ทำให้ผู้ที่ต่อในราคาสูงพ่ายแพ้ยับเยินเช่นเดียวกัน โดยมีการคาดว่าเงินสะพัดในการเลือกตั้งครั้งนับร้อยล้านบาท
ผศ.ตรีพล เจาะจิตต์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการเปลี่ยนแปลงของประชาชน โดยทุกอย่างนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการเมืองท้องถิ่นสนามเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ฝ่ายทีมสมนึกครองพื้นที่มายาวนานประชาชนอาจจะมีการสะสมอะไรบางอย่างประกอบกับการสร้างกระแสความต้องการเปลี่ยนแปลงประสบผลสำเร็จ การเมืองจึงเปลี่ยนขั้วอย่างเด็ดขาด และเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
ขณะที่แหล่งข่าวภายในรายหนึ่ง เปิดเผยสาเหตุของความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป และอย่างเหลือเชื่อของทีมสมนึก เกิดจากความประมาทในการจัดทีมผู้สมัคร ส.ท.ที่มีความหละหลวม รวมทั้งปัญหาที่สะสมในพื้นที่หลายปัจจัยผนวกกัน กล่าวคือ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของเทศบาลทำให้ถนนหลายสายทรุดโทรมอย่างหนัก
และมีปัญหาน้ำท่วมทับซ้อนหลายครั้ง ทำให้ไม่สามารถบูรณะถนนสายต่างๆ ได้ทันในช่วงปลายการดำรงตำแหน่งเป็นปัญหาที่กดดันประชาชนในเขตเทศบาล และมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ ดร.กณพ ยิ่งเป็นจุดอ่อนประกอบกับการทำการบ้านอย่างต่อเนื่องของทีม ผศ.เชาวนวัศน์ และมีกลยุทธ์ทั้งบนดินใต้ดินในการสร้างกระแส รวมทั้งการรณรงค์ความต้องการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรมทำให้ชนะอย่างถล่มทลายนั่นเอง