ปัตตานี - ผู้ว่าฯ ปัตตานีสั่งคุมเข้มสถานที่ราชการทุกแห่ง หลังที่ว่าการ อ.โคกโพธิ์ถูกถล่ม ด้านหน่วยกรองยังคงออกข่าวเตือนอีกให้ทุกสถานที่ราชการระวังเอ็ม 79
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคง (กอ.รมอ.) จ.ปัตตานี ได้กำชับถึงหน่วยกำลังตำรวจและทหารในพื้นที่ หลังมีการประชุมลับ 3 ฝ่าย ทั้งนี้เพื่อป้องกันดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการทุกแห่งในทุกอำเภอ หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเอ็ม 79 ถล่มที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ เป็นเหตุให้มี อส.และชาวบ้านบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายนิพนธ์สั่งกำชับให้หน่วยกำลังเพิ่มมาตรการคุมเข้มให้มากกว่าเดิม เพิ่มจุดตรวจ ป้อมยามหน้าสถานที่ราชการ และให้ใช้แผนยุทธศาสตร์การระวังป้องกันและสามารถใช้เชิงรุกทันที หากมีการเผชิญเหตุโดยตรง โดยเฉพาะสถานที่ราชการใน 12 อำเภอทุกแห่งให้เพิ่มกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัย โดยเสริมชุดรักษาความปลอดภัยลูกจ้างเร่งด่วนของรัฐเข้าไปช่วยดูแลให้มากขึ้น
ด้านหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้เพิ่มกำลังและการลาดตระเวนถี่ขึ้น เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบมีโอกาสสร้างสถานการณ์ได้ ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์ที่จอดหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองแล้วไม่เปิดเบาะรถ เจ้าหน้าที่ อส.จะนำชอล์กเขียนที่เบาะว่า “เปิดเบาะด้วย”
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้เอ็ม 79 ยิงใส่ที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์นั้น ขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนตัวคนร้าย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งของหน่วยรัฐและของเอกชน เชื่อว่าน่าจะพบตัวคนร้ายว่าเป็นใครได้ในที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ระบุกลุ่มคนร้าย แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
หน่วยข่าวด้านความมั่นคงยังได้แจ้งเตือนว่า คนร้ายยังคงมีแผนที่จะใช้เอ็ม 79 ยิงสถานที่ราชการอีก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาจุดยิงที่ชัดเจนได้และสามารถหลบหนีการติดตามจับกุม
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคง (กอ.รมอ.) จ.ปัตตานี ได้กำชับถึงหน่วยกำลังตำรวจและทหารในพื้นที่ หลังมีการประชุมลับ 3 ฝ่าย ทั้งนี้เพื่อป้องกันดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการทุกแห่งในทุกอำเภอ หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเอ็ม 79 ถล่มที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ เป็นเหตุให้มี อส.และชาวบ้านบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายนิพนธ์สั่งกำชับให้หน่วยกำลังเพิ่มมาตรการคุมเข้มให้มากกว่าเดิม เพิ่มจุดตรวจ ป้อมยามหน้าสถานที่ราชการ และให้ใช้แผนยุทธศาสตร์การระวังป้องกันและสามารถใช้เชิงรุกทันที หากมีการเผชิญเหตุโดยตรง โดยเฉพาะสถานที่ราชการใน 12 อำเภอทุกแห่งให้เพิ่มกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัย โดยเสริมชุดรักษาความปลอดภัยลูกจ้างเร่งด่วนของรัฐเข้าไปช่วยดูแลให้มากขึ้น
ด้านหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้เพิ่มกำลังและการลาดตระเวนถี่ขึ้น เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบมีโอกาสสร้างสถานการณ์ได้ ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์ที่จอดหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองแล้วไม่เปิดเบาะรถ เจ้าหน้าที่ อส.จะนำชอล์กเขียนที่เบาะว่า “เปิดเบาะด้วย”
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้เอ็ม 79 ยิงใส่ที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์นั้น ขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนตัวคนร้าย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งของหน่วยรัฐและของเอกชน เชื่อว่าน่าจะพบตัวคนร้ายว่าเป็นใครได้ในที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ระบุกลุ่มคนร้าย แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
หน่วยข่าวด้านความมั่นคงยังได้แจ้งเตือนว่า คนร้ายยังคงมีแผนที่จะใช้เอ็ม 79 ยิงสถานที่ราชการอีก เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาจุดยิงที่ชัดเจนได้และสามารถหลบหนีการติดตามจับกุม
